Lady Isabella's Scandalous Marriage by Jennifer Ashley
My rating: 4 of 5 stars
หลายคนน่าจะรู้ถึงความ "คลั่งไคล้" ที่แม็กซ์มีต่อหนังสือเรื่อง The Madness of Lord Ian MacKenzie จนกระทั่งบัดนี้เวลาผ่านไปปีกว่าแล้ว แม็กซ์ก็ยังยืนยันความคิดเดิมที่ว่า หนังสือเรื่องนั้นเป็นหนึ่งในหนังสือที่ดีที่สุดที่เราเคยได้อ่านมาค่ะ
และหลังจากรอคอยมาปีกว่า ในที่สุดหนังสือเล่มต่อในชุดพี่น้องตระกูลแม็คเคนซีก็ออกมาจนได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง แม็กซ์ไม่มีความรู้สึกว่า จะต้องเก็บเรื่องนี้ดองเพราะกลัวความผิดหวังเลยนะคะ ส่วนหนึ่งในตัวแม็กซ์ฺคาดหวังว่า เจนนิเฟอร์ แอชลีย์จะทำไ้ด้ดีกับการเขียนเล่มนี้ เราไม่คาดหวังว่า จะดีเทียบเท่ากับลอร์ดเอียนหรอกนะคะ แต่ก็ดีตามมาตรฐานของเธอที่ตอนนี้แม็กซ์ยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเขียนคนโปรดของเราแล้ว
ซึ่งแม็กซ์ก็ไม่ผิดหวังเลยสักนิดเดียว
Lady Isabella's Scandalous Marriage ของเจนนิเฟอร์ แอชลีย์
หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด Highland Pleasures เรื่องราวของสี่หนุ่มสุดฉาวตระกูลแม็คเคนซี เล่มนี้เป็นเรื่องราวของลอร์ดโรแลนด์ แม็คเคนซี ที่ทุกคนเรียกเขาว่า แม็ค แม็คเคนซี
เมื่อหกปีก่อน แม็คสร้างเรื่องอื้อฉาวสมกับชื่อเสียงของวงค์ตระกูลด้วยการโผล่ไปงานเลี้ยงเปิดตัวเลดี้สูงศักดิ์นามว่าอิซาเบลลา โดยที่ไม่มีบัตรเชิญ และเมื่อคืนวันนั้นจบลง แม็คได้ตัวสาวสวยคนนั้นกลับมาเป็นภรรยา
ความสัมพันธ์ของแม็คและอิซาเบลดำเนินมาได้ราวสามปี อิซาเบลลาก็ตัดสินใจเดินออกจากชีวิตของชายผู้ที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ แต่ก็รู้ดีว่า ไม่อาจจะอยู่ร่วมกับเขาได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งคู่แยกจากกันแม้จะมีความรักให้กันอย่างเต็มหัวใจ
เวลาผ่านไปอีกสามปี ทั้่งคู่อยู่อย่างเสมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน แต่ในที่สุดแม็คก็รู้แล้วว่า เขาพร้อมที่จะเดินกลับเข้าสู่ชีวิตของภรรยาที่เขารัก แม็คฉวยโอกาสที่อิซาเบลลาโผล่มาที่บ้านของเขา เพื่อแจ้งให้รู้ถึงการฉ้อโกงที่เกิดขึ้น มีใครบางคนอ้างตัวเป็นแม็ค แล้วนำภาพเขียนของเขาออกขาย ซึ่งอิซาเบลลาที่เป็นคนรู้จักเขาดีที่สุด รู้ว่า มันไม่ใช่ภาพของแม็ค
และแม็คก็รู้ดีว่า มันไม่มีทางเป็นภาพที่เขาวาด แม้มันจะดูเหมือนมากเพียงใด นั่นเพราะนับจากอิซาเบลลาเดินออกจากชีวิต และเขาเลิกดื่มเหล้า แม็คก็ไม่อาจวาดภาพอะไรได้อีก เขาคิดว่า ชีวิตในส่วนนั้นมันจบลงแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไรเลย เขารู้ว่า อะไรสำคัญที่สุด และมันไม่ใช่พรสวรรค์ในการสร้างงานศิลปะ หากแต่เป็นอิซาเบลลา
ความประพฤติของเขาในอดีตเป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาล้มเหลว และแม็คก็ไม่พร้อมที่จะกลับเข้าสู่ชีวิตของภรรยา จนกว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ "คู่ควร" กับเธอ แม็คใช้เวลาสามปีเปลี่ยนแปลงตัวเอง เลิกดื่มเหล้า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ขึ้นลงของตัวเองไว้ได้ และเมื่อเขาพร้อม เขาก็กลับไปหาเธอ
เพียงแต่อิซาเบลลายังไม่พร้อม เธอเคยชินกับชีวิตที่ไม่มีแม็ค มันอาจจะไม่ใช่ชีวิตที่เธอคาดหวังให้กับตัวเอง แต่มันก็เป็นชีวิตที่พอทน เธอมาถึงจุดที่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ มันอาจจะไม่ได้มีความสุขสูงสุดเหมือนตอนที่อยู่กับเขา แต่มันก็ไม่มีความปวดร้าวจนทนไม่ได้เช่นกัน
จุดเด่นมาก ๆ ของหนังสือเรื่องนี้ก็คือ ความรักที่แม็คและอิซาเบลลามีให้กัน มันชัดเจนอย่างไม่มีคำถาม และน่าเชื่อยิ่งนัก และในขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำให้เล่มนี้น่าสนใจก็คือ ความรักมันไม่เพียงพอ และมันทำให้เราอยากค้นหาว่า อะไรเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ที่ดูผิวเผินสมบูรณ์แบบ
พล็อตสืบสวนที่แทรกเข้ามาในเรื่องนี้แทบจะไม่มีน้ำหนัก หรือความน่าสนใจเลยนะคะ แต่มันก็ไม่ได้ทำลายเนื้อหาในเรื่องนี้ไป เพราะเราหลงใหลไปกับการพยายามกลับเข้ามาในชีวิตของอิซาเบลลาที่แม็คพยายามทำ
แม็กซ์ขอบคาแร็คเตอร์ของทั้งพระเอกและนางเอกค่ะ รู้สึกถึงความเหมาะสมอย่างยิ่งของทั้งคู่ อิซาเบลลาอาจจะเริ่มต้นอย่างสาวน้อยไร้เดียงสา แต่เธอก็ปรับตัวกับชีวิตของการเป็นภรรยาของศิลปินอื้อฉาวอย่างแม็คได้ดี และนั่นทำให้อิซาเบลลากลายเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ชายอย่างแม็ค และแม็คเช่นเดียวกับพี่น้องของเขา บาดแผลจากการเลี้ยงดูจากผู้เป็นบิดาผลักดันให้เขากลายมาเป็นคนอย่างที่เป็น เขารักงานศิลปะ แต่ถูกพ่อดูถูก และส่งเสริมให้เขาทำตัวสำมะเลเทเมา และทำให้แม็คไม่เคยเห็นคุณค่าของผลงานที่ตัวเองวาดขึ้น
ในแง่ของคาแร็คเตอร์แล้ว เล่มนี้ไม่ถึงกับลึกและได้ใจเราอย่างที่เอียน แม็คเคนซีทำได้นะคะ แต่แม็คก็เป็นพระเอกที่น่ารัก และเขาก็รักอิซาเบลลาเหลือเกิน ในแง่ของนางเอก เราชอบอิซาเบลลามากกว่าเบ็ธค่ะ ส่วนหนึ่งเพราะเธอกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด เมื่อรู้ว่า นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดกับชีวิตของตัวเอง
ส่วนที่ขัดกับเหตุผลไปบ้าง แต่เราก็ชอบนะคะ ไม่ใช่เรื่องราวของตัวเอกหรอกค่ะ แต่เป็นพฤติกรรมของเอียนที่ปรากฎในเล่มนี้ คือแม็กซ์รู้สึกว่า (สปอยล์)
โดยรวม เล่มนี้เป็นภาคต่อที่ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย อาจจะไม่สนุกเท่ากับเล่มแรก แต่จะมีเล่มไหนทำไ้ด้ล่ะ
คะแนนที่ 87
View all my reviews
No comments:
Post a Comment