Shadow's Edge by J.T. Geissinger
My rating: 3 of 5 stars
ข้อเสียของการเขียนรีวิวใน Goodread ก็คือ เขียนรีวิวเปรียบเทียบหนังสือสองเล่มด้วยกันไม่ได้ และเนื่องจากเราอ่านเล่มนี้ในเวลาใกล้เคียงกับการอ่านเรื่อง Fury of Fire ของคอรีน คัลลาแฮน เราจึงอดไม่ได้ที่จะนำเอาสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกัน (ทั้งสองเล่มตีพิมพ์โดยสนพ. Montlake ในค่ายอเมซอน)
เจนนารู้ว่า เธอแตกต่างจากคนอื่น ๆ ชีวิตในวัยเด็กที่ต้องย้ายจากที่นึงไปทีนึงตลอดเวลาพอบอกให้เธอรู้ว่า มีบางอย่างผิดปกติในชีวิตของเธอ ทั้งมารดาผู้เสียชีวิตไปแล้วของเธอก็พร่ำสอนเธอมาตลอดว่า ให้เลือกที่จะหนี อย่าเผชิญหน้า หากศัตรูปรากฎตัวขึ้น ศัตรูที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่า คือใคร รู้แต่ว่า คนกลุ่มนี้ตามล่าครอบครัวเธอมาตลอด
จนกระทั่งวันนึงเธอก็ได้พบกับพวกเขา
ลีนเดอร์เป็นผู้นำของชนชาติที่ไม่ใช่มนุษย์ พวกเขาเรียกตัวเองว่า อิคาติเผ่าพันธุ์โบราณที่สามารถแปลงร่างเป็นหมอก และเสือได้ ชนชาติที่ถูกตามล่าโดยมนุษย์ จนต้องสร้างกฎเหล็กในการปกครอง กฎที่ใช้ควบคุมพวกเขาทุกคน
และเจนนาแม้เธอจะเป็นเพียงลูกครึ่งอิคาติ เป็นผลผลิตอันน่ารังเกียจ ชีวิตของเธอก็อยู่ภายใต้การจับตามองของคนกลุ่มนี้เช่นกัน ในวัยเกิดปีที่ยี่สิบห้าของเธอ หากเจนนาสามารถแปลงร่างเป็นเสือได้ เธอจะถูกพาไปเข้าเผ่า แต่ถ้าเธอพิสูจน์ว่าเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ความตายก็จะมาเยือน
เมื่อได้พบกันเจนนาซึ่งแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกอิคาติเลย หลังจากพิสูจน์ตัวเองว่า สามารถแปลงร่างได้ เธอก็ยินยอมให้ตัวเองถูกพาไปอังกฤษ (เธออาศัยอยู่ในอเมริกา) เพื่อทำความรู้จัก "ครอบครัว" ใหม่ ที่ที่ซึ่งเธอได้เรียนรู้ถึงภูมิหลังอันเจ็บปวด เหตุผลที่บิดาจากครอบครัวไป และยอมรับความจริงว่า ลีนเดอร์คือคนที่เป็นคู่ของเธอ
การเขียนเรื่องนี้ดีมาก ๆ การเล่าเรื่องราว การใช้ภาษา ความน่าสนใจของเรื่องมีอยู่ตลอด เรียกว่าอ่านไปไหลลื่นมาก ๆ แต่...
ต้องเน้นตรงนี้เลยนะคะ และเราก็อายเล็ก ๆ ที่ต้องยอมรับความจริงส่วนนี้ออกมา
แต่เราไม่มีความสุขในการอ่านหนังสือเล่มนี้เลย เราเกลียด เกลียด เกลียด และเกลียดพวกอิคาติ และนี่คือเผ่าพันธุ์ที่เป็นตัวเอกหลักในเรื่องชุดนี้ พวกนี้คือพวกที่เราต้องยอมรับว่า เป็นคนดี เป็นพระเอก แต่เราไม่ชอบพวกเขา ไม่ชอบสักคนเดียว แม้กระทั่งพระเอก
ถ้าเราเป็นเจนนา เราจะเดินออกมาแล้วอยู่ตามลำพังดีกว่า
ทัศนคติของพวกอิคาติก็คือ เกลียดมนุษย์ หากเผ่าพันธุ์ของพวกเขาคนไหนไปแต่งงานกับมนุษย์ พวกนี้ก็จะออกตามล่าไล่ฆ่าล้างครอบครัว นั่นเป็นสิ่งที่เกิดกับพ่อของเจนนา จนเขาเลือกที่จะเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อหยุดการตามล่า ยอมตามเพื่อให้ภรรยาและลูกสาวมีชีวิตต่อ แต่นั่นไม่จบ เพราะเจนนาซึ่งเป็นลูกครึ่งก็โดนวงจรอุบาทนี่อีก
เราเข้าใจเรื่องแนวพารานอมอลที่เขียนเล่าถึงเผ่าพันธุ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ และไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์ (BDB เป็นตัวอย่างนึง) แต่อย่างน้อยทัศนคติของคนพวกนี้ก็คือ ปกป้องมนุษย์ ไม่ใช่รังเกียจ คือเราก็รู้สึกว่า ตัวเองเป็นมนุษย์น่ะค่ะ เหมือนนั่งอ่านหนังสือที่คนแสดงอาการรังเกียจเราอย่างชัดเจน อ่านแล้วอึดอัดมาก แล้วก็เกลียดพวกนี้มาก ๆ
พระเอกที่เริ่มต้นดูเหมือนจะดีกว่าคนอื่น ๆ ก็พิสูจน์ว่าไม่เอาถ่าน เขายอมแพ้แรงกดดันของบรรดา "ผู้ใหญ่" ในเผ่า เขาไม่ยืนหยัดเพื่อนางเอก
เล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านแล้วอึดอัดมาก ๆ ไม่มีความสุขเอาเลย ทั้งที่การเขียนดีมากเช่นกัน เรื่องราวก็น่าสนใจ แต่มันเป็นเรื่องของคนที่เราไม่ชอบ ที่สำคัญเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่แสดงอาการรังเกียจเราอย่างชัดเจน (เพราะเราก็เป็นมนุษย์) นี่ยังไม่นับทัศนคติห่วย ๆ ของตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่อง นี่เป็นโรแมนซ์ที่เรานึกอยากให้จบแบบนางเอกเดินจากมาโดยไม่ห้นไปมอง
เพราะคนพวกนี้ไม่มีค่าควรมองแม้แต่นิดเดียว
ต้องขอโทษนะคะที่เราเขียนรีวิวแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นความผิดของคนแต่ง แต่เราอึดอัดกับทิศทางของเรื่องมาก ๆ ทัศนคติของตัวละครที่เห็นแก่ตัว ดูถูกมนุษย์ มันมากเกินไป แต่กระนั้นเพราะการเขียนค่ะ เราเลยตัดสินใจอ่านเล่มสองต่อ อย่างน้อยก็ซื้อมาแล้วนี่นา
เล่มนี้คะแนนที่ 63 (ซึ่งอาจจะสูงกว่านี้ก็ได้นะคะ ถ้าเราไม่ได้มีปัญหากับทัศนคติของคาแร็คเตอร์บางตัวในเรื่องนี้)
ป.ล. สำหรับคนที่สนใจว่า ทำไมเราเอาไปเปรียบเทียบกับหนังสือของคอรีน คัลลาแฮน นั่นก็คือ ทั้งสองเป็นเรื่องแนวพารานอมอลทั้งคู่ โลกของตัวละครในเล่มนี้เขียนได้ดีกว่า น่าค้นหามากกว่า ตัวละครก็มีมิติมากกว่า การเล่าเรื่องก็ดีกว่า แต่ท้ายที่สุดเราตัดสินใจตามอ่านเรื่องของคอรีน คัลลาแฮนค่ะ ด้วยเหตุผลเดียวก็คือ เราอ่านเรื่องชุดนั้น ที่ไม่มีอะไรมากมายให้คิดรกสมอง เพราะเป็นไปตามสูตรสำเร็จทุกอย่าง เราสบายใจค่ะ ในขณะที่เราอ่านเรื่องชุดนี้ เราเกิดความรู้สึกรุนแรงมาก ๆ ไม่มีความสุขเอาเลยค่ะ
View all my reviews
No comments:
Post a Comment