Sunday, March 22, 2009

Bride of a Wicked Scotman // Samantha James

หนังสือเล่มนี้หยิบมาอ่านคั่นเวลาค่ะ เพราะแม็กซ์ไม่อยากอ่านอะไรที่จะมีความหมายมากจนเกินไป เลยเลือกเรื่องของคนแต่งที่เราไม่คาดหวังอะไรนัก และก็ได้อย่างที่คาดค่ะ คือ ไม่มีอะไรให้คาดหวังได้

Bride of a Wicked Scotman ของซาแมนธา เจมส์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มสาม หรือเล่มสุดท้ายในชุดไตรภาคเรื่องราวของสามพี่น้องตระกูลแม็คไบร์ด ที่เล่มนี้เล่าถึงเรื่องราวของอเล็ค แม็คไบร์ดพี่ชายคนโต และยังเป็นดยุคแห่งเกลนเดนอีกด้วย (สำหรับคนที่สนใจ แม็กซ์สับเละหนังสือสองเล่มแรกในชุดแล้วที่บลอกนี้ค่ะ)

เรื่องนี้ตั้งต้นดูน่าสนใจดีนะคะ เล่าถึงเลดี้มัวร่า โอดอนเนลผู้ที่บิดาได้สั่งเสียก่อนตายให้เธอออกตามหาสมบัติล้ำค่าของตระกูล ที่ถูกขโมยไปเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน เบาะแสเดียวที่เขาทิ้งไว้ให้ก็คือ การบอกว่าอเล็ค แม็คไบร์ดซึ่งเป็นดยุคชาวสก๊อตที่เดินทางมาเที่ยวไอร์แลนด์อันเป็นบ้านเกิด ของเธอมีส่วนรู้เห็น นั่นเพราะอเล็คเป็นลูกหลานของโจรสลัดที่ปล้นสมบัติชิ้นนี้ไป

สมบัติชิ้นนี้เป็นเครื่องลางนำโชคดีมาให้กับตระกูลโอดอนเนล ซึ่งเมื่อสูญเสียไปแล้ว ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่งก็เดินจากไปจากตระกูล ทำให้มัวร่าที่แม้จะเป็นลูกสาวของเอิร์ล แต่ก็มีความเป็นอยู่ไม่ต่างไปจากสาวชาวบ้านทั่วไป แต่เมื่อให้คำมั่นกับบิดาที่จะตามหาสมบัติของตระกูลกลับมา เธอก็ยินดีที่จะแลกทุกอย่าง แม้กระทั่งการหลอกลวงดยุคหนุ่มให้แต่งงานกับเธอ

นั่นเพราะมัวร่ามองไม่เห็นทางอื่นที่จะให้อเล็คพาเธอกลับไปสก๊อตแลนด์บ้าน เกิดของเขาด้วย เธอแน่ใจว่าสมบัติประจำตระกูลจะต้องถูกซ่อนอยู่ที่บ้านของอเล็ค และการหลอกให้เขาเชื่อว่า เขาได้ล่วงเกินเธอ จนกระทั่งยอมแต่งงานกัน จึงเป็นทางเดียวที่เธอจะแทรกตัวเข้าไปในชีวิตของเขาได้

แต่การใช้ชีวิตร่วมกับอเล็คโดยไม่ตกหลุมรักเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอเล็คไม่มีอะไรเหมือนกับบรรพบุรุษผู้เป็นโจรสลัดของเขา อเล็คเป็นสุภาพบุรุษและหล่อเหลา แถมยังเอาใจใส่ต่อ "ภรรยา" คนนี้ของเขาเป็นอย่างดี แต่มัวร่าก็รู้ว่า การแต่งงานระหว่างทั้งคู่เป็นเพียงเรื่องจอมปลอม และเธอจะต้องกลับไปไอร์แลนด์ในที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมปล่อยใจให้รักเขา

แต่นี่คือหนังสือโรแมนซ์ ดังนั้นแม็กซ์จึงคิดว่า พวกเราน่าจะรู้ถึงจุดจบของเรื่องกันดีนะคะ

อย่างที่บอกไปแล้วนะคะ แม็กซ์ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการอ่านเล่มนี้ ซึ่งเป็นข้อดีค่ะ เพราะถ้าคาดแม็กซ์คงต้องเขวี้ยงหนังสือทิ้งขยะไปแล้วล่ะ หลายจุดในเรื่องไร้เหตุผลอย่างรุนแรง เราเข้าใจนะคะว่า คนแต่งตั้งใจจะใช้แง่มุมของพารานอมอลหน่อย ๆ กับสมบัติประจำตระกูลของมัวร่า แต่ขอโทษนะ การให้นางเอกของเรื่องซึ่งความจะเป็นหญิงสาวที่ฉลาดและมีปัญญา ทำทุกอย่างด้วยความรู้สึก เธอแน่ใจว่า สมบัติของตระกูลจะต้องถูกซ่อนเอาไว้ที่บ้านของอเล็ค เพราะเธอสัมผัสบางอย่างได้จากอากาศ เธอมั่นใจว่า อเล็คเป็นลูกหลานของโจรสลัดที่ขโมยสมบัติประจำตระกูลไป เพราะเธออ่านชื่อของเขาจากหนังสือพิมพ์แล้วก็รู้สึกแน่ใจ มันดูทำให้สติปัญญาของนางเอกถดถอยลงไปน่ะค่ะ เพราะในแง่มุมอื่นของเรื่อง มัวร่าก็ไม่ได้มีสัมผัสพิเศษอะไรทั้งสิ้น

แล้วการออกตามหาสมบัติประจำตระกูลชนิดทุ่มสุดตัวนี่ีอีก แม้ว่าท้ายสุดมันเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เมื่อสมบัติคืนมา ตระกูลโอดอนเนลก็เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง แต่ในยุคที่วางพล็อตเรื่องนี้ไว้ก็น่าจะราว ๆ ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคที่มนุษย์พัฒนาวิทยาศาสตร์จนเจริญสูงสุด การได้เห็นนางเอกงมงายจนไร้เหตุผล (แม้ว่ามันจะเป็นความเชื่อที่ถูกต้องก็ตาม) เราจึงรู้สึกเหยียด ๆ นางเอกคนนี้สักหน่อย เพราะตลอดทั้งเรื่องเราก็ไม่เห็นเหตุการณ์อะไรที่จะสนับสนุนความเป็นพารานอ มอลส่วนอื่นในเรื่องเลย

แม็กซืรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหากับนางเอกของซาแมนธา เจมส์เกือบทุกเรื่องเลยนะคะ แต่สำหรับพระเอก เราค่อนข้างโอเคกับอเล็ค แต่นั่นก็ไม่อาจบอกอะไรได้มากหรอกนะคะ เพราะเราก็รู้สึกนิดหน่อยว่า ผู้ชายที่ฉลาดไม่น่ามาเอาผู้หญิงอย่างมัวร่า เขาน่าจะได้ใครที่ดีกว่านี้นะ

แต่อย่างที่บอกนะคะ เราหยิบมาโดยที่ไม่คาดหวัง ดังนั้นเมื่อเราไมไ่ด้อะไรจากการอ่านเล่มนี้เลย (แม้กระทั่งความสนุก) แม็กซ์ก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร แต่คงไม่ได้คาดหวังหรอกนะคะว่าแม็กซ์จะให้คะแนนสูง

ต้องขอโทษสำหรับแฟน ๆ ของซาแมนธา เจมส์ (ที่เรารู้ว่ามีเยอะเหมือนกันในเมืองไทย) แต่เราไม่ถูกทางกับงานของเธอจริง ๆ ค่ะ คะแนนที่ 43

No comments: