Sunday, March 22, 2009

Dangerous To Touch // Jill Sorenson

คนที่อ่านรีวิวของแม็กซ์เรื่อง Crash into Me ที่เขียนไว้เมื่อช่วงต้นเดือนคงจะพอรู้ว่า แม็กซ์ชอบงานของนักเขียนหน้าใหม่อย่างจิล ซอเรนสันมากแค่ไหนนะคะ และก็เป็นโชคดีของเราอีกค่ะที่เมื่อปีก่อน แม็กซ์ตัดสินใจสั่งซื้อหนังสือเรื่องนี้เอาไว้แล้ว (มิฉะนั้นถ้าไม่สั่ง ตอนนี้คิดจะสั่งก็ไม่มีของขายแล้วล่ะ เพราะหนังสือของฮาร์ลิควินหมดเร็วมาก) ทำให้เรามีงานของจิลอีกเล่มเอาไว้อ่าน

ในฐานะที่หนังสือเรื่องนี้เป็นเล่มแรกที่จิล ซอเรนสันเขียน แม็กซ์ให้คะแนนสอบผ่านนะคะ แต่สำหรับนักเขียนที่เขียนเรื่องอย่าง Crash into Me เธอสอบตก เพราะเรื่องนี้ไม่อาจเทียบกันได้เลย

ปัญหาใหญ่ที่เรามองเห็นก็คือ ขนาดความยาวของเรื่อง ในขณะที่ CIM หนามากกว่าสี่ร้อยหน้า หนังสือเรื่องนี้หนาเพียง 215 หน้า ในขณะที่ความเข้มข้นของพล็อตเรื่องก็มีมากพอกัน ทำให้เวลาเราอ่านเล่มนี้ เรารู้สึกถึง "ความขาด" ของเนื้อเรื่องไปหลายส่วนเลยล่ะ

Dangerous to Touch ของจิล ซอเรนสัน

ซิดนี่ย์ มาร์โลว์เป็นหญิงสาวผู้มีพรสวรรค์พิเศษ นั่นก็คือเธอสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตได้โดยการสัมผัส และเหตุการณ์ที่เธอเห็นก็ไม่ใช่สิ่งที่ซิดนี่ย์ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องเลย เพราะมันคือเหตุการณ์ฆาตกรรมหญิงสาวคนนึง นิมิตที่เธอเห็นผ่านการสัมผัสสุนัขของหญิงสาวผู้นั้น

และแม้รู้ว่าจะไม่มีใครเชื่อ ซิดนี่ย์ก็ตัดสินใจแจ้งสิ่งที่เห็นกับตำรวจ ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เธอพูด ยิ่งไปกว่านั้น มันทำให้เธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ เพราะเป็นเพียงคนเดียวที่บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ผู้หมวดมาร์ค ครูซถูกส่งมาติดตามความเคลื่อนไหวของซิดนี่ย์ เพราะหวังว่าเธอจะนำเขาไปสู่ฆาตกรตัวจริง และหวังว่ามันจะทันเวลาก่อนที่ฆาตกรรายนั้นจะฆ่าอีกครั้ง

พล็อตหนังสือเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นมาตรฐานของแนวโรแมนติคสืบสวนทั่วไปนะ คะ นางเอกที่เห็นนิมิต พระเอกที่เป็นตำรวจไม่เชื่อในสิ่งที่เธอเห็น และตั้งคำถามทุกอย่าง (คุ้น ๆ กันไหม กับพล็อตนี้ เรื่องนึงที่โดดเด่นในใจแม็กซ์ก็คือเรื่อง Dream man ของลินดา โฮเวิร์ด) ในขณะเดียวกันมาร์คก็ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้จับตามองพฤติกรรมของ ซิดนี่ย์ทุกอย่าง และนั่นหมายถึงการติดเครื่องดักฟังที่บ้านของเธอด้วย (แม็กซ์ผิดหวังนิดนึงนะคะที่ไม่มีการใช้พล็อตเครื่องดักฟังกับฉากรัก เรานึกถึงเรื่อง Behind Closed door ของแชนน่อน แม็คเคนน่าน่ะค่ะ)

แต่เมื่อดูเหมือนว่าซิดนี่ย์จะพูดความจริง มาร์คก็ถึงเวลาต้องเลือกว่าระหว่างอาชีพ กับการปกป้องซิดนี่ย์จากคนร้าย

ในด้านนึงหนังสือเรื่องนี้มีพล็อตที่คล้ายกับ Crash into me พอสมควร เพราะพระเอกในเล่มนี้ (หรือนางเอกใน CIM) ปลอมตัวเข้าไปตีสนิทกับนางเอก เพื่อสืบข้อมูลของเธอ ก่อนที่ท้ายที่สุดจะยอมสละอาชีพที่ตัวเองรักเพื่อปกป้องเธอ (เช่นเดียวกับที่นางเอกใน CIM เลือกที่จะเข้าข้างพระเอกทั้งที่หลักฐานชี้ว่าเขาเป็นคนผิด) แม็กซ์ชอบที่ท้ายที่สุดแล้ว ก็มีการลงโทษที่มาร์คเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย (หรือซิดนี่ย์) เราอ่านหนังสือแนวนี้หลายเล่ม แทบจะไม่มีเล่มไหนพูดถึงผลพวงของการเข้าไปยุ่งเกี่ยว (ทางเพศ) กับผู้ต้องสงสัยสักเล่ม เล่มนี้ให้มุมมองที่สมจริงมากกว่า

ข้อเสียก็เหมือนอย่างที่แม็กซ์พูดไปแล้ว ด้วยข้อจำกัดเรื่องหน้ากระดาษ ทุกอย่างในเล่มเร่งรัดและดูไม่เป็นจังหวะกับเนื้อเรื่อง กระทั่งการเฉลยตัวคนร้ายตอนจบเรื่องก็ราวกับว่า คนแต่งมีอะไรในใจมากกว่านี้ แต่หน้ากระดาษมันหมดเสียก่อน ก็เลยไม่ได้เขียน แม็กซ์อยากรู้ค่ะว่า ถ้าให้จิลเขียนเล่มนี้ใหม่อีกครั้ง โดยที่ไม่ได้วางขายกับฮาร์ลิควิน (ซึ่งมีนโยบายในการจำกัดหน้ากระดาษมาก) เรื่องนี้จะออกมาเป็นยังไง

เพราะเล่มนี้มีองค์ประกอบที่จะเป็นหนังสือที่สนุกไ้ด้ค่ะ เพียงแต่วิธีการนำเสนอเรื่องราวยังไม่ดีพอ มันสั้น และห้วนเกินไป จนแม็กซ์ไม่รู้สึกว่าเรารู้จักตัวละครเลย (ซึ่งนี่เป็นเรื่องแย่ที่สุด เพราะแม็กซ์ชอบการกำหนดคาแร็คเตอร์ของจิลมาก เรื่อง CIM ได้ใจเราไปเต็ม ๆ เพราะคาแร็คเตอร์นี่แหละ ไม่ใช่พล็อต)

คะแนนที่ 63

No comments: