Wednesday, March 4, 2009

Desires Never Die // Jenna Petersen

ส่วนใหญ่วันทำงาน แม็กซ์จะไม่ค่อยเอาหนังสือที่ตัวเองคิดว่าสนุกมาอ่านนะคะ เรามักหยิบเอาเล่มที่ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากมาอ่าน และส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนังสือที่ดองเปรี้ยวดองเค็มมานานหลายปี และรีวิววันนี้ก็เป็นคิวของหนังสือเก่าเก็บอีกเล่มค่ะ

แต่ก่อนอื่นขอพูดถึงตัวนักเขียนคนนี้ก่อนแล้วกัน เจนน่า ปีเตอร์เซ่นเป็นนักเขียนที่แม็กซ์ยังคงถือว่า "หน้าใหม่" แม้จะมีงานเขียนออกมาเกือบสิบเล่มแล้วก็ตาม (ไม่ว่าจะเป็นในนามปากกานี้ หรือเจส ไมเคิลส์ก็ตาม) ตอนที่เราอ่านงานเล่มแรกของเธอเรื่อง Scandalous ที่แม้จะยังไม่ถือว่าสนุกอะไรมากมาย แต่เราก็คิดว่า เจนน่าเป็นนักเขียนที่มีอนาคต และน่าติดตามซื้อต่อ

เราซื้องานของเธอเรื่อยมา และคิดเสมอว่า "เล่มนี้แหละที่จะเป็นเล่มที่ดีที่สุดของเธอ"

ผลเป็นไงเหรอคะ

เราอ่านงานของเธอในนามปากกาเจนน่า ปีเตอร์สันไปสี่เล่ม (จากทั้งหมดห้าเล่มที่ออกขาย) ไม่มีเรื่องไหนเลยที่เทียบเคียงกับ Scandalous ได้ และดูเหมือนมันจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ

แม็กซ์กำลังคิดหนักค่ะว่า จะเลิกอ่านงานของเธอดีไหม

ว่ากันด้วยรีวิวก่อนแล้วกัน จะได้เข้าใจในสิ่งที่แม็กซ์พูดมากขึ้น

Desire Never Dies ของเจนน่า ปีเตอร์สัน

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด Lady Spies เรื่องราวที่แม็กซ์คิดเอาว่าคงเกิดจากไอเดียของเจมส์ บอนด์ผสมกับนางฟ้าชาร์ลี เรื่องที่เลดี้เอ็ม (เลียนแบบเอ็มในเจมส์ บอนด์ ซึ่งดูได้จากชื่อเรื่องที่ตั้งเลียนแบบหนังบอนด์หลายเรื่อง) ซึ่งเป็นสุภาพสตรีในวงสังคมชั้นสูงที่ไม่เปิดเผยตัวเองให้คนอ่านเห็น (และคงจะเฉลยในเล่มสามแหละ) ได้ทำการรวบรวมเลดี้สาวม่ายในวงสังคมสามคนเพื่อก่อตั้งองค์กรสายลับขึ้นใน ยุครีเจนซี่

ความไม่น่าเชื่อมันก็เริ่มต้นตั้งแต่ตรงนี้แหละ เพราะแม็กซ์อ่านมาสองเล่ม เราไม่รู้สึกว่า เจ้าองค์กรลับสุดยอดเกี่ยวกับสายลับที่เป็นผู้หญิงนี่ มันจะไปอยู่ตรงไหนของการจัดการองค์กรในระบบการปกครองของอังกฤษในยุคนั้น เพราะอ่านแล้วก็รู้ว่า ไม่ได้สังกัดกระทรวงต่างประเทศ เหมือนอย่างที่สายลับคนอื่น ๆ ในประเทศของอยู่กัน ปัญหาคือ มันอยู่ตรงไหน ไม่มีการพูดถึงตรงนี้โดยละเอียดเลย

การที่เป็นหนังสือโรแมนซ์ ไม่ได้หมายความว่า คนแต่งมีสิทธิที่จะแต่งเรื่องที่ไร้เหตุผลได้หรอกนะคะ อย่างน้อยมันต้องวางพื้นฐานอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงบ้าง แม็กซ์ไม่ชอบหนังสืออย่างนี้ เพราะมันทำให้โรแมนซ์เสียชื่อ

กลับมาที่เรื่องของเรา เลดี้อนาสตาเซียเป็นสายลับที่ไม่เคยออกทำงานภาคสนาม เธอเป็นอัจฉริยะในการตีความโค้ดลับ เป็นนักประดิษฐ์สติเฟื่องที่สร้างเครื่องไม้เครื่องมือให้กับองค์กรสายลับ แต่เพราะการบาดเจ็บอย่างไม่คาดฝันของสายลับอีกคนในองค์กร เธอจึงจำเป็นต้องออกปฏิบัติงานกับสายลับจากกระทรวงต่างประเทศอย่างลูคัส ไทเลอร์เพื่อสืบสวนหาคนทรยศ ที่เปิดเผยตัวสายลับหลายคนในองค์กร จนทำให้สายลับเหล่านั้นถูกลอบทำร้าย

ลูคัสซึ่งเป็นสายลับหนุ่มหล่อ ร่ำรวย พร้อมสรรพทุกอย่าง (ขอให้นึกถึงเจมส์ บอนด์เข้าไว้) ไม่ยินดีนักที่ต้องมาทำงานร่วมกับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างแอนนาที่ไม่เคยทำงานสายลับนอกสถานที่มาก่อน แต่ลูคัสไม่มีทางเลือกเมื่อผู้บังคับบัญชาออกคำสั่งให้ต้องทำ นอกจากนี้แล้วแอนนายังเป็นคนทำให้เขาหวั่นไหว จนแทบไม่มีสมาธิพุ่งตรงไปกับงานตรงหน้า เธอเป็นผู้หญิงที่แตกต่าง แม่หม้ายที่รักสามีผู้เสียชีวิตไปของเธออย่างมาก ผู้หญิงที่ปฏิเสธเขาหลายครั้ง และเป็นผู้หญิงที่ลูคัสพบว่าตัวเองไม่อาจห้ามใจไม่ให้ยุ่งเกี่ยวได้เลย

หนังสือเรื่องนี้มีพล็อตชนิดที่ดาษดื่นมาก นั่นคือไม่มีอะไรใหม่ในเนื้อเรื่อง แถมการสืบสวนหาคนร้ายก็ดูเหมือนเด็กอนุบาลเล่นซ่อนหากัน มันไม่ลึกลับ ไม่ต้องใช้ความคิด และแม็กซ์ไม่เข้าใจว่า ทำไมองค์การสายลับของลูคัสเองไม่มีปัญญาสืบหาความจริงนี้ได้ตั้งแต่ต้น ทำไมต้องมาเป็นงานของแอนนาที่จะคิดเรื่องนี้ออก ทุกอย่างมันเด่นชัดมาก ก็แค่ (สปอยล์) สืบเรื่องการเงินของคนที่เป็นผู้ร้าย ความจริงทุกอย่างก็ปรากฎออกมาแล้ว

แม็กซ์คิดนะว่าคนแต่งอาจจะพยายามทำให้คนอ่านเชื่อว่าแอนนาฉลาดที่มองเห็นการ เสแสร้างของคนร้าย แต่มันกลับเพิ่มความโง่ให้กับลูคัส และองค์กรของเขา มีที่ไหน สายลับในองค์กรตัวเองตายลงเป็นสิบ ๆ คน แทนที่จะสืบหาหนอนบ่อนไส้ ซึ่งสืบได้ง่ายมากเมื่อดูจากวิธีที่แอนนาใช้ในการยืนยันความคิดของตัวเองว่า คนคนนั้นเป็นคนทรยศ แต่พระเอก (ขอย้ำว่าเป็นพระเอกนะ) และองค์การของเขาไม่เคยทำ

อ่านแล้วไม่น่าเชื่อว่า อังกฤษที่มีองค์กรสายลับที่ห่วยแตกอย่างงี้จะชนะสงครามกับนโปเลียนได้

ยิ่งไปกว่านั้น คนแต่งยังแสดงความไม่เข้าใจ (หรือแกล้งไม่เข้าใจ แม็กซ์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน) ในเรื่องเกี่ยวกับแบ่งแยกการบริหารงาน มีฉากหนึ่งในเรื่อง ที่ลูคัสถูกเรียกให้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีคนทรยศถูกฆาตกรรม ลูคัสคิดในใจว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ซึ่งในเวลานั้นยังไม่ได้เป็นตำรวจของแท้ แต่เรียกกันว่า Watch) ไม่มีอำนาจในการทำคดีใหญ่อย่างนี้หรอก มันเป็นหน้าที่ของสายลับในการสืบ

อุแม่เจ้า แม็กซ์เพิ่งรู้นะคะว่า สายลับเขามีไว้ในการสืบสวนคดีฆาตกรรม

เห็นอย่างนี้แล้ว จะให้แม็กซ์นับถือพระเอกของเราได้ยังไง ที่สำคัญ จะให้แม็กซ์นับถือเจนน่า ปีเตอร์สันได้ยังไง เราเข้าใจนะว่าเธอจะสื่อให้คนอ่านเห็นถึงความยิ่งใหญ่ ความสำคัญของเหล่าสายลับ แต่การให้ลูคัสตัดบทและปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องของ Watch มันผิดความจริงอย่างใหญ่หลวง

แม็กซ์โอเคนะคะถ้าจะบอกว่าเหล่า Watch นี่ไร้ความสามารถ สืบคดีไม่ได้หรอก ต้องให้สายลับมาทำคดี นั่นก็โอเค แต่ประเด็นคือ คดีฆาตกรรมไม่ใช่หน้าที่ของสายลับในการสืบสวน (ถ้าจะสืบก็ต้องสืบในทางลับ แต่ไม่ใช่หน้าที่ เข้าใจกันไหมเนี่ย --- อันนี้ถามตัวละครในเรื่องนะคะ ไม่ได้ถามคนอ่านบลอก)

อีกเรื่องน่าขัดใจก็คือ ในเรื่องพยายามบอกว่า กลุ่มสายลับสาวสามคน (ที่เป็นนางเอกในชุดนี้) มีความสำคัญมากแค่ไหน แต่เราไม่เห็นว่าพวกเธอจะทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง และอย่างที่บอก เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอสังกัดหน่วยงานไหน และมีความรับผิดชอบในหน้าที่อะไร ถ้าแม็กซ์เข้าใจไม่ผิด งานหลักของสายลับก็คือ การออกไปสืบความลับ แต่แม็กซ์ไม่เห็นว่า สามสาวในเรื่องสืบความลับบ้าบออะไรสักอย่าง เราโอเคนะกับงานที่แอนนาได้รับมอบหมายในเรื่องนี้ มันเป็นการขอความช่วยเหลือจากองค์การสายลับอื่นให้ช่วยสืบหาคนทรยศในหน่วย งานของตัวเอง แต่ตลอดสองเล่มในชุดนี้ที่อ่านมา ก็ไม่เห็นว่าสายลับสาวมีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ย้อนกลับมาในส่วนของโรแมนซ์บ้าง เราไม่มีปัญหาอะไรกับตัวละครนะคะ แต่ในอีกแง่นึง ตัวละครก็เป็นส่วนที่ทำให้พล็อตเลวร้ายลง แม็กซ์มีความรู้สึกว่า ทั้งลูคัสและแอนนาไม่ได้ให้ความใส่ใจกับงานที่ได้รับมอบหมายเลย ตลอดทั้งเรื่องก็มัวแน่นัวเนียคลอเคลียกันไปมาทั้งเรื่อง ทำงานโคตรคุ้มค่าจ้างเลย (อันนี้ประชดนะ)

อย่างที่บอกค่ะ เรื่องนี้เป็นหนังสือโรแมนซ์ เราก็คาดหวังให้เรื่องโฟกัสที่ตัวละครและความรักของพวกเขา แต่การดำเนินเรื่องในเล่มนี้ มันทำให้ดูเหมือนทั้งพระเอกและนางเอกเห็นแก่เรื่องส่วนตัวมากกว่าหน้าที่การ งาน และการเป็นหนังสือโรแมนซ์ ก็ไม่ได้เป็นการอนุญาตให้คนแต่งละเลยพล็อตเรื่องยังไงก็ได้หรอกนะ

หลังจากอ่านงานของเจนน่าไปหลายเล่ม แม็กซ์ได้ข้อสรุปว่า เธอมีปัญหาในการทำให้เรื่องรักษาความน่าสนใจไว้ได้น่ะค่ะ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่พล็อตที่ทำให้แม็กซ์รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อ และกลับกลายเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตัวละคร อย่างในเรื่องนี้ เราไม่เชื่อว่าทั้งลูคัสและแอนนาเป็นสายลับ เพราะไม่มีน้ำยาด้วยกันทั้งคู่ รวมทั้งองค์กรสายลับที่สองคนนี่สังกัดอยู่ด้วย อย่างที่บอกนะคะ เราไม่รู้สึกว่า อังกฤษน่าจะชนะสงครามได้เลย ถ้ามีองค์การสายลับห่วย ๆ อย่างสองแห่งนี้

คะแนนที่ 43

No comments: