โรแมนซ์แนวฮิต

โดนเพื่อนทักมาค่ะว่า พักนี้เราอ่านโรแมนซ์แนวพารานอมอลเยอะมาก ๆ พูดไปขนาดว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นแม็กซ์พาราไปเลยหรือไง ไม่กลัวเจ้าของลิขสิทธิ์เขาจะมาตามบีบคองั้นหรือ

พอโดนทัก แม็กซ์ก็เลยกลับมาหวนคิด และด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบเก็บสถิติต่าง ๆ ก็เลยคิดว่าน่าจะให้คำตอบชนิดที่ซตพ. (สำหรับคนที่เกิดไม่ทันมันย่อมาจากคำว่า ซึ่งต้องพิสูจน์ครับ) สักหน่อย

ปรากกฎว่ามาดูจากจำนวนหนังสือที่แม็กซ์ซื้อในแต่ละเดือน ย้อนกลับไปมาเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ปรากฎว่าประมาณ 35% ของหนังสือโรแมนซ์ที่แม็กซ์ซื้อเป็นแนวพารานอมอล สัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงเดือนนี้ก็มากถึง 50%

แม็กซ์ไม่คิดหรอกนะว่ารสนิยมตัวเองจะเปลี่ยนไปบ้าแนวพารานอมอลอย่างรุนแรง ภายในระยะเวลาไม่ถึงปี เรายังคิดว่าตัวเองก็ยังเหมือนเดิม ความชอบเหมือนเดิม เพียงแต่ตอนนี้ถ้าจะหาโรแมนซ์ที่ไม่มีพารานอมอลปนเลยมันเป็นเรื่องยากสัก หน่อย ก็เลยกลายเป็นว่า ไม่ว่าเล่มอะไรที่หยิบอ่านก็ติดแนวนี้ไปหมดแล้ว

โดยเฉพาะเมื่อเอาแนวพารานอมอลมาผสมกับ Urban Fantasy ที่กำลังมาแรงโคตร (หรืออย่างน้อยก็แรงในความเห็นของแม็กซ์) ก็ยิ่งกระพือความฮ็อต (ในแง่ขายดีนะคะ ไม่ใช่เซ็กส์) ให้กับแนวนี้ไปกันใหญ่เลย

แต่ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าหันมาดูอันดับหนังสือขายดีของนิวยอร์คไทม์กัน เรากลับได้พบเทรนด์ที่น่าสนใจ จากสถิติย้อนหลังสองเดือน ประมาณ 43 - 60% ของหนังสือที่ขึ้นอันดับนิวยอร์คไทม์เป็นหนังสือโรแมนซ์ หรือเขียนโดยนักเขียนที่ในอดีตเกิดจากแนวโรแมนซ์

ในแง่ของความยืนยงบนอันดับหนังสือขายดี นักเขียนที่เกิดจากแนวโรแมนซ์ที่แม้ปัจจุบันจะเลิกเขียนแนวนี้ไปแล้วอย่าง เช่น เจเน็ต อีวาโนวิช, ลิซ่า การ์ดเนอร์, ซานดร้า บราวน์, และอีกหลายคน มีอัตราความยืนยงบนอันดับหนังสือขายดีของนิวยอร์คไทม์สูงมาก นั่นคือหนังสืออยู่ในอันดับขายดีติดต่อกันเป็นเวลาหลายอาทิตย์

ในทางกลับกันหนังสือแนวพารานอมอลที่ถือว่าเป็นแนวที่มาแรงมากในขณะนี้มี ลักษณะเป็นม้าตีนต้น ก็คือเข้ามาอยู่ในอันดับหนังสือขายดีในอาทิตย์แรกที่เริ่มขาย จากนั้นก็หายหน้าไปจากอันดับ ถ้าแม็กซ์วิเคราะห์ก็คงสรุปว่า แฟนหนังสือแนวนี้กระจุกตัวอยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเมื่อกลุ่มนี้ช่วยกันซื้อหนังสือจนเข้าอันดับ ก็แทบจะไม่มีแรงหนุนจากแฟนหนังสือกลุ่มอื่นช่วยซ้ำต่อ ทำให้ติดอันดับได้แค่อาทิตย์เดียว

ส่วนแนวปัจจุบันที่เขียนโดยนักเขียนโรแมนซ์ จะยืนอันดับได้ยาวนานกว่า แม้อาจจะไม่ขึ้นถึงอันดับหนึ่งของนิวยอร์คไทม์ก็ตาม แต่ก็มีปริมาณที่คงที่ในอันดับขายดีตลอดเวลา (ประมาณ 30 - 40% ของหนังสือขายดีแนวโรแมนซ์ในอันดับนิวยอร์คไทม์เป็นแนวปัจจุบัน) ซึ่งผิดกับแนวอื่นที่มีการเหวี่ยงตัว อย่างแนวพารานอมอลมีตั้งแต่แค่ 10% ไปจนถึง 40% เปลี่ยนไปในแต่ละสัปดาห์

ถ้าอ่านที่เขียนแล้วงง ก็ลองดูตารางนี้แล้วกันค่ะ Main ย่อมาจาก Mainstream นั่นคือไม่ใช่โรแมนซ์หรอกค่ะ แต่เขียนโดยนักเขียนที่มีรากมาจากโรแมนซ์ และเรื่องราวก็ยังหนีไม่พ้นความรัก เพียงแต่ไม่ใช่โฟกัสของเรื่อง

แต่ข่าวล่าจากงาน RWA บอกว่า กระแสพารานอมอลในวงการโรแมนซ์กำลังจะหมดลง และในที่สุดแนวย้อนยุคก็จะกลับมาผงาดอีกครั้ง บางสนพ.บอกว่า จะเกิดขึ้นภายในหนึ่งปีนี้แหละ สำหรับแม็กซ์ขอบอกว่าไม่ค่อยแน่ใจค่ะ ก็คงต้องดูกันต่อไป