Friday, January 23, 2009

Montana Sky // Nora Roberts

เมื่อวานมีเวลานั่งดูหนังทางยูบีซีซึ่งสร้างจากนิยายเรื่องนี้ของนอร่า โรเบิร์ต ก็เลยเกิดอาการอยากอ่านขึ้นมากระทันหัน เลยเป็นเหตุให้ทิ้งเล่มที่กำลังอ่านอยู่ (Prince of twilight ของแม็กกี้ เชน) ทันควัน แล้วหยิบเล่มนี้มาอ่านอีกรอบทันที

ขอเวลาพูดถึงหนังนิดนึงแล้วกันค่ะ สำหรับคนที่มีโอกาสได้ดูเรื่องนี้ ก็ขอบอกว่า แม้จะี้ถือว่าสร้างได้เหมือนกับบทประพันธ์มาก แต่เพราะความสั้นของหนังที่แค่ชั่วโมงกว่า ๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถ่ายทอดรายละเอียดในหนังสือที่หนากว่าห้าร้อยหน้า เล่มนี้ได้ ก็เลยทำให้เวลาแม็กซ์ดูเกิดความรู้สึกรวบรัด และเร่งมาก พฤติกรรมตัวละครดูผิดเพี้ยนไปจากที่ได้อ่านในหน้าหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นเทสพี่สาวคนโต ที่ดูในหนังแล้วเหมือนสาวใจแตกมากกว่าที่จะเป็นคนที่รู้ใจตัวเอง (เหมือนที่แสดงออกในนิยาย) หรือเรื่องราวของตัวร้ายที่ดูแล้วไม่มีความลึกเอาเสียเลย

เราวกกลับมาที่หนังสือกันดีกว่าค่ะ

Montana Sky ของนอร่า โรเบิร์ต

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือปกแข็งเล่มแรกในชีวิตที่แม็กซ์ซื้ออ่าน แต่โปรดอย่าเข้าใจผิดคิดว่าแม็กซ์ลงทุนหรอกนะคะ พอดีวันนั้นแม็กซ์รอเครื่องบินอยู่ที่สิงคโปร์เพื่อเดินทางกลับเมืองไทย แล้วอดไม่ได้ที่จะต้องไปเดินดูของขายในร้านที่สนามบิน สายตาก็ไปเจอหนังสือเล่มนี้เข้า (ที่ไม่ได้มีปกอย่างที่โชว์ในบลอกหรอกค่ะ) ลดราคา 70% ในเวลานั้นแม็กซ์เคยได้ยินชื่อของนอร่า โรเบิร์ตมาบ้าง เริ่มซื้องานของเธอเก็บแล้วล่ะ เพียงแต่ยังไม่เคยอ่าน

ด้วยบางอย่างดลใจ แม็กซ์ตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาอ่าน และนี่คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์และนอร่าที่ยืนยาวมาจนถึง ทุกวันนี้

เพราะแม็กซ์อ่านเล่มนี้จบภายในเวลาสองชั่วโมงระหว่างที่เครื่ิองบินบินจากสิงคโปร์กลับเมืองไทย

มอนตาน่า สกายเป็นเรื่องราวของพี่น้องสามสาวต่างแม่ที่ไม่เคยมีโอกาสได้พบหน้ากันมา ก่อนเลย แต่จำเป็นต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะพินัยกรรมของพ่อที่มีคำสั่งให้ทั้งสามอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในมอนตาน่า และจะเดินทางไปอยู่ที่อื่นนานเกินกว่าหนึ่งอาทิตย์ไม่ได้เลยภายในเวลาหนึ่ง ปี มิฉะนั้นมรดามูลค่านับสิบล้านเหรียญจะตกเป็นของการกุศล

สำหรับเทส เมอร์ซี่ สาวคาลิฟอร์เนียเป็นเป็นนักเขียนบทค่าตัวแพงในฮอลีวู้ด แม่ของเธอเป็นอดีตโชว์เกิร์ลในเวกัสที่แต่งงานกับแจ๊ค เมอร์ซี่ เป็นคนแรก และก็เป็นคนแรกที่แยกทางกับเขา เธอไม่เคยได้พบหน้าพ่อที่ทิ้งเธอไป และไม่คิดว่าอยากจะพบด้วย เหตุผลเดียวที่เธอทำตามพินัยกรรมก็เพราะเงิน ไม่ใช่เพราะเทสต้องการเงิน แต่เธอมองว่านี่คือ สิ่งที่เธอควรได้รับ

สำหรับลิลลี่ เมอร์ซี่ คำสั่งในพินัยกรรมคือเสียงจากสวรรค์ เธอกำลังหนีการตามของอดีตสามีซาดิสต์ที่ทำร้ายร่างกายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ลิลลี่ต้องการเพียงที่ที่ปลอดภัยเพื่อหลบซ่อน แต่การได้มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกับพี่น้องที่เธอไม่เคยรู้จักก็เหมือนเป็น โบนัสพิเศษสำหรับเธอ

และสำหรับวิลล่า ลูกสาวเพียงคนเดียวที่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตกับแจ๊ค เมอร์็ซี่ เธอเป็นทุกอย่างที่เขาต้องการในลูกชาย แต่มันไม่เคยเพียงพอ เธอไม่เคยดีพอ แต่กระนั้นเธอก็รักเขาเท่าที่ลูกสาวจะรักผู้เป็นพ่อ คำสั่งในพินัยกรรมเปรียบเสมือนการตบหน้า เพราะเธอคือคนเพียงคนเดียวที่รักไร่แห่งนี้อย่างแท้จริง แต่เธอกลับต้องแบ่งมันกับพี่สาวที่ไม่รู้จัก และไม่ต้องการ

นอร่า โรเบิร์ตแสดงฝีมือเหนือชั้นในการเขียนเล่มนี้ ด้วยการเสนอตัวละครหญิงสาวตัวที่แตกต่างกันราวกับฟ้าดิน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอ่านผูกพันไปกับพวกเธอ จากความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นอย่างไม่เป็นมิตร สามสาวผูกพันกัน จนกลายเป็นพี่น้อง ความแตกต่างกลายเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน ความสัมพันธ์ของสามพี่น้องเมอร์ซี่เป็นสิ่งที่ทำให้แม็กซ์รักหนังสือเล่มนี้ อย่างมาก

และในส่วนของโรแมนซ์ก็ดีไม่แพ้กันเลย ด้วยนิสัยที่ต่างกัน ความรักของทั้งสามก็เป็นสามรูปแบบ ลิลลี่เป็นคนแรกที่เจอความรัก เธอเป็นเสมือนลูกนกปีกหัก เธอเคยเลือกคนผิด และถูกทำร้ายอย่างสาหัส ชายคนที่สอนให้เธอเชื่อใจผู้ชายอีกครั้งคือ อดัม พี่ชายต่างพ่อของวิลล่า เขาเป็นอินเดียน และอย่างอินเดียนที่ถูกนำเสนอจนเจนตาเ็ป็นคนที่เข้าใจธรรมชาติ และอ่อนโยนยิ่งนัก แม็กซ์อาจไม่รู้สึกอะไรมากกับความสัมพันธ์ของคู่นี้ แต่ก็เห็นว่ามันเหมาะสมกับบุคลิคของลิลลี่ดี

แล้วก็มาถึงเทส หญิงสาวที่ทำทุกอย่างรวดเร็ว ว่องไวตามแบบฉบับสาวฮอลีวู้ด เธอเก่งกาจและรู้ว่าต้องการอะไร คนที่เธอต้องการคือเนท ในหนังเขาเป็นนายอำเภอ แต่ในหนังสือเขาเป็นทนายความ คนที่เลือกที่จะใช้ชีวิตง่าย ๆ เนทแตกต่างจากเทสทุกอย่าง เขาเป็นคนง่าย ๆ ผ่อนคลาย ในความสัมพันธ์คู่นี้เราได้เห็นเทสเป็นฝ่ายที่ล่าเหยื่อ (แต่ไม่โจ่งครึ่มอย่างในหนังนะคะ) และเนทก็เล่นตัว เพราะรู้ว่า เขาต้องการเทสตลอดไป ไม่ใช่แค่ชั่วครู่ยาม และหากเขายอมให้ความสัมพันธ์เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ โอกาสที่เขาจะคว้าตัวสาวคนนี้ไว้ในมอนตาน่าตลอดไป ก็คงไม่มีทาง

แม็กซ์ชอบคู่ของเทสที่สุดค่ะ แต่เธอไม่ใช่ตัวเอกของเรื่องนะคะ คู่เอกของเรื่องคือวิลล่าและเบน วิลล่าเป็นนางเอกแบบสาวเจ้าพยศ เธอช่วยงานพ่อในไร่ตั้งแต่เด็ก เป็นทอมบอย และรู้ว่าสิ่งที่แจ๊คต้องการเหนืออื่นใดคือลูกชาย และเมื่อเขาไม่มีลูกชาย เขาก็ต้องการเบนให้เป็นคนคนนั้น วิธีการที่แจ๊คคิดเพื่อให้ได้เบนมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็คือ ให้เบนเป็นทรัสตีผู้ดูแลไร่ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่พี่น้องสามสาวต้องอยู่ร่วม กัน วิลล่ารู้ว่าพ่อหวังให้พวกเธอผูกพันกับเขา และนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอต้องการ

จุดเด่นของเรื่องนี้คือความรักของพี่น้อง ที่อ่านก็ซึ้ง พล็อตรองก็คงจะเป็นเรื่องฆาตกรที่ตามรังควาญสาว ๆ ตระกูลเมอร์ซี่ ที่ก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน และเมื่อความจริงเปิดเผยว่าเขาเป็นใคร แม็กซ์ก็ชอบเหตุผลดีนะ

คะแนนที่ 80

No comments: