Kiss of Snow by
Nalini Singh My rating:
4 of 5 stars เราเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้คลั่งไคล้การจับคู่ระหว่างฮอร์คและเซียนนาเท่าไหรเลยนะคะ เรารู้สึกว่า มันง่ายเกินไป แล้วเรามองไม่เห็นความน่าสนใจของทั้งคู่ ส่วนหนึ่งเพราะเราคิดเสมอว่า เซียนนาเด็กเกินไป
เรายังยืนยันแบบนั้นนะคะ โดยเฉพาะในช่วงสี่ห้าเล่มแรกในชุด พฤติกรรมที่เธอแสดงออก แม้จะมีเหตุผล (เธอออกจากไซเน็ต จากความเงียบมาสู่ความรู้สึกฉับพลันทันที และเธออายุยังน้อย) เราก็รู้สึกว่า เธอเป็นผู้ใหญ่ไม่พอที่จะรับมือกับฮอร์ค และนี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลที่นลินี ซิงห์เขียนให้เซียนนาต้องออกจากเผ่าสโนว์แดนเซอร์ ย้ายไปอยู่กับดาร์คริเวอร์เพื่อเตรียมตัวรับมือกับความสามารถพิเศษอันร้ายกาจของตัวเองกับซาช่า (นางเอกเล่มแรก Slave to Sensation) ในเรื่อง Play of Passion เธอกลับมา และเราพบว่า เธอมีความน่าสนใจ และโตพอแล้ว
อย่างไรก็ตามเราก็กลัวเล็ก ๆ นะคะว่า คนแต่งจะเขียนความรักระหว่างผู้ชายวัยสามสิบกว่า กับเด็กสาววัยสิบแปดยังไงให้มันออกมาลงตัว ไม่ดูเป็นเฒ่าหัวงู (เรามีปัญหากับพล็อตที่พระเอกอายุมากกว่านางเอกเยอะ ๆ เสมอ) แต่นลินี ซิงห์ก็พิสูจน์ว่าเธอทำได้ และทำได้ดีมาก ๆ ด้วย
นี่ไม่ได้เกี่ยวกับว่า เธอไม่ได้บอกอายุของฮอร์คไว้ในเรื่องหรอกนะคะ แต่การเล่าเรื่อง คาแร็คเตอร์ และสถานการณ์ในเรื่องทุกอย่างลงตัวมาก ๆ ทำให้เราเชื่อว่า เซียนนาเป็นผู้ใหญ่พอ ฮอร์คแม้จะมีเจตนาดีที่สุดด้วยการไม่ยอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเธอ ก็ไม่อาจวิ่งหนีความต้องการ และหัวใจของตัวเองได้ นอกจากนี้การเล่าเรื่องก็ยังให้เวลา ให้เหตุผล และมีน้ำหนักมากพอที่จะเชื่อว่า ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่ความต้องการทางเพศ หรือเป็นสิ่งที่เรียกร้องจากด้านหมาป่าของฮอร์ค หากแต่เป็นบางอย่างที่จะไม่หายไป บางสิ่งที่ยั่งยืน คงทน
เรื่องนี้ยกย่องคนแต่งเลยนะคะ จากที่คิดว่า คงจะไม่ชอบ กลายเป็นยอมรับได้ แล้วกลายเป็นชอบมาก ๆ
ติดใจนิดนึงตรงภูมิหลังของเซียนนา ที่แน่นอนว่าเปิดเผยมาแบบนี้ ทำให้เรามีความรู้สึกว่า เธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็นึกถึงเล่มก่อนหน้าที่อ่านไปแล้ว จริงอยู่ว่า มันไม่ได้ขัดกับสิ่งที่คนแต่งบอกคนอ่านเอาไว้ก่อนในเล่มก่อนหน้า (ไม่มีเล่มไหนที่พูดถึงเซียนนาในระหว่างที่เธอเติบโตมาเลย) แต่เรานึกสงสัยว่า นี่เป็นภูมิหลังที่นลินีวางแผนให้กับเธอมาตั้งแต่ต้นรึเปล่า การที่เธอถูกพรากไปจากแม่ตั้งแต่ห้าขวบ ถูกเลี้ยงดูโดยหมิง สมาชิกสภาชาวไซที่เหี้ยมโหด การฝึกฝนอันน่าหวาดกลัว และการที่จัดด์ทำอะไรไม่ได้เลย
แต่ก็ชอบนะที่เซียนนากลายเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ทางทหารไป เธอเรียนทุกอย่างมาจากหมิง ดังนั้นเธอจึงเป็นคนที่รู้ดีที่สุด ชอบการที่คาแร็คเตอร์เอาความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มาเป็นข้อได้เปรียบ และชอบฮอร์คมากที่รู้จักเธอดีพอที่จะไม่ออกอาการหวง ปกป้องเกินเหตุ
ชอบสุด ๆ ฉากที่เซียนนาออกอาการ "แคร์รี" (ใครเกิดทันดูหนังเรื่องนี้กันบ้าง) ตอนเธอแสดงพลังเอ็กซ์ล้างโลก (ให้อารมณ์นั้นมาก) อ่านแล้วเรานึกในใจแบบ "ฆ่ามันเลย" โหดไปไหมเนี่ย
อันนี้ยกประโยชน์ให้คนแต่งนะคะ เพราะหลังจากกลับไปอ่านใหม่แล้ว มีการพูดถึง "ความผิดปกติ" บางอย่างเกี่ยวกับจิตของวอร์คเกอร์มาก่อนในเล่มก่อนหน้า เราเลยคิดว่า นี่น่าจะเป็นทางออกที่เธอเตรียมไว้ให้กับพลังของเซียนนาเรียบร้อยแล้ว
อีกอย่างที่เราชอบ (อาจจะชอบมานานแล้ว แต่เพิ่งเห็นชัดเจนในเล่มนี้) ก็คือ การที่คนอ่านรู้มากกว่าตัวละคร อย่างฉากที่เผ่าสโนว์แดนเซอร์ปรึกษากับดาร์คริเวอร์ถึงสมาชิกสภาชาวไซที่เป็นผู้นำในการโจมตีสโนว์แดนเซอร์ แล้วทางวอห์นยืนยันว่า ไม่ใช่แอนโธนีแน่ ๆ ซึ่งคนอ่านรู้อยู่แล้ว เพราะเรารู้ว่า แอนโธนีกับนิกิต้าร่วมมือกัน และแอนโธนีเป็นหนึ่งในกลุ่มปฏิวัติที่ต้องการล้มล้างไซเลนซ์ แต่ฮอร์คไม่รู้ คนแต่งเขียนเนียนมาก และแม่นมากในส่วนนี้ เรื่องที่คนอ่านรู้ ตัวละครบางตัวรู้ แต่ตัวเอกในเล่มอาจจะไม่รู้ พวกเขาก็ตั้งคำถาม ไม่ใช่ทำเหมือนรู้ ทั้งที่ไม่ควรจะรู้ได้ตามเนื้อเรื่อง
ส่วนที่ไม่ชอบของเล่มนี้ที่มากที่สุด ก็คงจะเป็นช่วงที่เรื่องหันไปโฟกัสที่ความสัมพันธ์ระหว่างวอร์คเกอรืกับลารา เราไม่ได้มีอะไรต่อต้านคาแร้คเตอร์ทั้งสองนะคะ แต่เรารู้สึกว่า มันแย่งเวลาที่ควรจะเล่าเรื่องของฮอร์คกับเซียนนาไป (ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะเล่มนี้หนากว่าเล่มปกติในชุดเล่มอื่น ๆ ที่นลินีเขียน จึงเป็นไปได้ว่า ที่มันหนาขึ้นมา เพราะเอาพล็อตของวอร์คเกอร์กับลารามาใส่เข้าไป) เราคิดว่า มันทำให้เสียสมาธิ อ่านแล้วปรับอารมณ์ไปมา เพราะสองคู่นี้ไม่เหมือนกันเลย (และความจริงที่ว่า เราว่าคู่ฮอร์คกับเซียนนามีความน่าสนใจมากกว่า) จริง ๆ แล้วก็มีการเขียนเรื่องสั้นของสองคนนี้ออกมาต่างหากนะคะ น่าจะเอาไปรวมอยู่กับชุดนั้นเลยดีกว่า (แต่อาจจะทำไม่ได้ เพราะเงื่อนเวลาในเรื่องด้วยแหละ อีกอย่างเล่มนี้ก็ต้องถือว่า เล่มนี้วอร์คเกอร์มีความสำคัญมาก)
เช่นเดิมเรารู้สึกอย่างเดียวกับที่รู้สึกตอนอ่าน Play of Passion เราไม่เข้าใจว่า ทำไมเพียวไซต้องลงทุนลงแรงมากมายไปกับเผ่าเชนจิ้งค์ด้วย เข้าใจกลยุทธ์พวกนี้นะ ต้องการทำลายซานฟรานซิสโกให้ราบ เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่มันง่ายกว่าไหม ถ้าแค่ลอบสังหารนิกิต้า และแอนโธนี (ที่ตอนนี้เป็นพันธมิตรกัน) เพราะเห็นได้ชัดว่า พวกเชนจิงค์คงไม่เข้าไปยุ่งกับการเมืองของพวกไซ การทุ่มกำลัง ยกกองทัพมาโจมตีทั้งสโนว์แดนเซอร์ และดาร์คริเวอร์ เท่ากับเป็นการเปิดศึกมากเกินความจำเป็น ไม่มีประโยชน์ (ในสายตาของเรา)
ฉากซึ้ง ๆ ในเล่มนี้มีเยอะมาก ระหว่างฮอร์คกะเซียนนาไม่ต้องพูดถึง ช่วงท้ายเรื่องเมื่อเขายอมที่จะตายไปพร้อมกับเธอ เมื่อคิดถึงความผูกพันที่เขามีต่อเผ่าสโนว์แดนเซอร์ นั่นมันใหญ่มาก แล้วยังการเกิดของนายา ลูกสาวของซาช่า กับลูคัส (แต่ชอบตอนที่นิกิต้าโอนเงินเข้ามาเป็นทุนการศึกษาให้หลานนะ เพราะสำหรับชาวไซอย่างเธอ นี่อาจจะเป็นการแสดงความรุ้สึกที่มากที่สุดที่ทำได้แล้ว)
เล่มนี้เหมือนรวมอะไรหลายอย่างไว้ด้วยกัน ในแง่นึงถือว่าเป็นเล่มที่เป็นจุดเปลี่ยนของชุดเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละเผ่าพันธุ์ไม่ได้อยู่ตามลำพังอีก นิกิต้าและสองเผ่าเชนจิ้งค์กลายเป็นพันธมิตร พันธมิตรที่ฮอร์คสร้างไว้ในอดีต (ฟัลคอน) ที่ลูคัสสร้างไว้ (แรท) ก็มีบทบาทในเล่ม แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองในการปกป้องเมือง และถิ่นที่อยู่ของพวกเขา
และต้องพูดถึงอลิซ อัลดริจท์ ยอมรับว่าช็อคมาก ไม่คิดว่าจะมาในรูปนี้ แต่เราเริ่มเห็นแววนางเอกในอนาคตแล้วล่ะ โดยเฉพาะเมื่อเธอรู้จักหน่วยแอโรว์ (เป็นไปได้ยังไง เมื่อเหตุการณ์ตอนที่ทุกคนเข้าใจว่า เธอตายเกิดขึ้นก่อนการบังคับใช้ไซเลนซ์ แต่เราเข้าใจว่า หน่วยแอโรว์ถูกสร้างขึ้นหลังจากนั้น เพื่อปกป้องไซเลนซ์ หรือมันเกิดขึ้นก่อนกันแน่? สงสัยต้องกลับไปอ่าน Caressed by Ice ใหม่)
โดยรวมเล่มนี้ทำให้เราเกินกว่าความคาดหวัง สมกับเล่มปกแข็งเล่มแรกของนลินี ซิงห์ ยิ่งใหญ่ สำคัญมาก ๆ ในชุด
คะแนนที่ 83
View all my reviews
No comments:
Post a Comment