Tuesday, June 24, 2014

Review: Spirit Bound


Spirit Bound
Spirit Bound by Christine Feehan

My rating: 3 of 5 stars



ในกระบวนหนังสือของคริสตีน ฟีแฮนที่ออกมามากมายหลายชุด ชุดที่เราโปรดปรานและติดตามอ่านมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองซีเฮเวน ที่ถือว่าเป็นชุดที่ไม่ถึงกับเป็นแนวพารานอนอลจ๋าอย่างชุดอื่นของเธอ ตัวเอกจะมีพลังจิตพิเศษเหนือกว่าคนธรรมดา แต่ในขณะเดียวกันเรื่องราวก็ยังคงเป็นเรื่องของคาแร็คเตอร์เป็นหลัง ผ่านฉากหลังในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้

หนังสือชุดซีเฮเวนออกมาแล้วสองชุดค่ะ ชุดแรกเป็นเรื่องของพี่น้องตระกูลเดรคที่มีเจ็ดเล่ม ซึ่งหลังจากชุดนี้จบลงไป คริสตีนก็เขียนชุดใหม่ขึ้นมา ตั้งชื่อว่า Sisters of the Heart เรื่องราวของหญิงสาวหกคนที่แม้จะไม่มีสายเลือดเกี่ยวพันกัน แต่ก็ผูกพันรักใคร่กันดุจดั่งพี่น้อง ซึ่งชุดนี้ก็เกิดขึ้นในเมืองซีเฮเวนเช่นกัน ทำให้คาแร็คเตอร์ในชุดเดรคโผล่มาในเล่มนี้ประปราย ที่สำคัญเราสงสัยแล้วล่ะค่ะว่า (สปอยล์เรื่องในชุดเดรค) พระเอกทั้งหกของเรื่องน่าจะเป็นพี่น้องที่พลัดพรากกันไปของอิเลีย พราเคนสกี พระเอกในเรื่อง Turbulent sea อีกต่างหาก

เรื่องนี้เป็นเล่มสองในชุดค่ะ เล่าเรื่องของจูดิธ ซึ่งไม่ถึงกับจำเป็นต้องอ่านเล่มก่อนหน้าในชุดไม่ว่าจะเป็นชุดนี้ หรือชุดเดรคก็น่าจะอ่านเล่มนี้ได้รู้เรื่อง

สเตฟาน พราเคนสกีเป็นสายลับชาวรัสเซียที่ได้รับคำสั่งให้สืบหาไมโครชิปที่เก็บความลับสำคัญจากฌองคอส เลอรุซ (ขอบอกว่า ความสามารถในการอ่านชื่อภาษาฝรั่งเศสของเรานรกมาก ดังนั้นขออภัยล่วงหน้าไปเลยกับการอ่านชื่อแบบผิด ๆ แต่เป็นตัวร้ายน่ะค่ะ เลยไม่อยากเสียเวลาหาวิธีการอ่านออกเสียงที่ถูกต้อง) ซึ่งเป็นมาเฟียใหญ่ที่แม้จะติดคุกอยู่ แต่ก็ยังทรงอิทธิพล สเตฟานปลอมตัวเข้าไปอยู่ในคุกเดียวกับฌองคอสเพื่อหลอกตีสนิท แต่ก็ไม่เป็นพ้น กระนั้นเขาก็ได้รับรู้ถึงความคลั่งไคล้ที่อาชญากรคนนี้มีต่อผู้หญิงลึกลับที่มีนามว่าจูดิธ

ความไม่คืบหน้าของปฏิบัติการทำให้เจ้านายของสเตฟานตัดสินใจช่วยฌองคอสแหกคุกออกมา เพื่อให้เขาพาไปหาไมโครชิปลึกลับนั้น แต่นั่นไม่ใช่หน้าที่ที่สเตฟานได้รับมอบหมาย เขากลับถูกส่งตัวไปอเมริกาที่เมืองซีเฮเวน เพื่อติดตามตีสนิทกับจูดิธ ถ้าหากฌองคอสสามารถหลบหนีจากการติดตามของสายลับคนอื่น (ที่ช่วยเขาแหกคุกออกมา) ได้

และนั่นทำให้สเตฟานรู้เกือบในทันทีว่า มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เพราะสายลับที่ได้รับการฝึกมาอย่างเขามีค่าเกินกว่าจะเล่นบทพี่เลี้ยงในเมืองเล็ก ๆ เขารู้ว่า ผู้บังคับบัญชากำลังต้องการจะเก็บเขาออกจากเกมส์ เพื่อทำลายร่องรอยของการกระทำในอดีตที่ใช้วิธีสกปรกจับเอาเด็ก ๆ ไปฝึกเป็นสายลับ พี่น้องตระกูลพราเคนสกีก็เป็นหนึ่งในเด็กที่ถูกส่งเข้าไปในระบบแห่งความโหดร้ายนั้น ตอนนี้เบาะแสปรากฎขึ้น เจ้านายของสเตฟานหวาดกลัวอนาคตทางการเมืองของตัวเองจะดับลง ทางออกก็คือกำลังสายลับที่เกิดจากโครงการนี้

แต่สเตฟานไม่ใช่แค่คนเดียว เขาถูกส่งไปซีเฮเวนเพื่อหลอกล่อให้เลฟ น้องชายของเขาซึ่งก็เป็นสายลับ แต่หายสาปสูญไปขณะปฏิบัติการที่เมืองแห่งนี้ปรากฎตัวออกมา

เมื่อไปถึงสเตฟานรับบทบาทของโธมัส เจ้าของห้องภาพผู้แสนจะศิวิไลซ์ มันเป็นบทบาทที่เขาเล่นได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง สิ่งที่เขาไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้เลยก็คือการได้พบกับจูดิธ เธอเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง และยังทำงานให้กับเจ้าของห้องภาพที่ "โธมัส" เสแสร้งว่าสนใจจะซื้อเป็นเจ้าของ

ครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน ทั้งคู่ก็รู้ในทันทีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ทั้งคู่ต่อกันติดเพียงแค่สบตา ความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันเริ่มต้นเกิดขึ้น นั่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่จูดิธรู้สึกบางอย่าง หลังจากความล้มเหลวในความสัมพันธ์ในอดีต ความสัมพันธ์ที่ทำให้พี่ชายของเธอถูกฆ่า และหญิงสาวต้องหลบหนีไปเลียแผล

แต่ภายใต้ฉากหน้าของโธมัส ก็คือสเตฟาน สายลับผู้อันตราย และแม้เขาจะรู้ว่า ตัวเองมีใจให้กับจูดิธ และตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่า จะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปไหนแน่ ๆ ก็ยังมุ่งมั่นว่าจะทำภารกิจในการตามหาไมโครชิปให้เจอ ทำให้แม้เขาจะเชื่อมั่นในตัวจูดิธมากเพียงไร ก็ไม่อาจบอกความจริงทุกอย่างให้เธอทราบได้

นอกจากนี้เขายังต้องตามหาตัวน้องชายตัวแสบ ที่เขาเชื่อว่า ยังมีชีวิตอยู่ และหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองซีเฮเวนแห่งนี้

เราชอบคาแร็คเตอร์ของสเตฟานนะคะ ปัญหาก็คือ เขาไม่มีความสดใหม่ เป็นคาแร็คเตอร์แบบที่เราเห็นหลายครั้งในหน้าหนังสือ บางมุมของเขาทำให้เรานึกถึงปีเตอร์ เจนเซน (พระเอกเรื่อง Cold as Ice ของแอนน์ สจ๊วต) แต่สเตฟานไม่เยือกเย็นพอ ในแง่มุมของการเป็นสายลับผู้ใช้ทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ มีเซ็กส์ก็เพื่อภารกิจ (แต่ต่างกันตรงที่สเตฟานไม่เคยมีอะไรกะผู้ชายนะคะ) ทำให้เมื่อเจอกับจูดิธ เขามีเซ็กส์เพื่อเซ็กส์ (หรือความรัก) เป็นครั้งแรก นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ

อย่างที่บอกไปค่ะ ไม่มีอะไรใหม่ในคาแร็คเตอร์ของสเตฟาน สายลับผู้เหนื่อยกับการเล่นเกมส์แห่งความตาย เดินทางมาเมืองเล็ก ๆ และได้เจอกับหญิงสาวผู้ทำให้เขาตื่นขึ้นจากอาการชาชินกับโลกแห่งความโหดร้ายที่ใช้ชีวิตอยู่เป็นประจำ จูดิธคือแสงสว่างที่ปลายทางของสเตฟาน และแม้จะไม่มีอะไรใหม่ในคาแร็คเตอร์ของเขา แต่ตัวละครแบบนี้ก็เป็นแบบพิมพ์ที่เราโปรดปรานมากค่ะ ดังนั้นจึงอ่านได้ไม่มีปัญหา

มีฉากขำ ๆ อยู่หลายฉากในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่สเตฟานคิดว่า เลฟ ผู้เป็นน้องชาย (และพระเอกเล่มแรกในชุดเรื่อง Water Bound) มาหลอกเพื่อนของจูดิธเพื่อใช้เป็นฉากหน้าในการป้องกันตัวเอง แล้วออกอาการโกรธน้องมาก ๆ โดยไม่คิดว่า ตัวเขาเองก็กำลังทำอย่างเดียวกันกับจูดิธ (สเตฟานให้เหตผลว่า ถึงหลอกเรื่องตัวตนที่แท้จริง แต่เขาจริงใจในเรื่องความรักนะ)

เล่มนี้ฉากระหว่างมีฉากระหว่างพี่น้องพราเคนสกีให้ชื่นใจกันบ้างนะคะ แม้อิเลียที่รักของเราก็ยังไม่กลับมาจากฮันนีมูน (ซะที พี่ชายโผล่มาสองคนแล้ว น้องคนเล็กยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง) ฉากสองพี่น้องตามล่าคนร้าย อ่านแล้วได้ใจมาก แต่ฉากที่เราถือว่าสนุกที่สุด ก็คงเป็นฉากที่เพื่อนสาวพยายามเกลี้ยกล่องเรกกิ (นางเอกเล่มแรก) ให้รับหมามาเลี้ยงให้ได้ อ่านแล้วนึกถึงเรกกิเลยค่ะ คริสตีนรักษานิสัย (แปลก ๆ) ของเรกกิได้ดีมาก

โดยรวมเล่มนี้ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ในแง่ของพล็อตหรือคาแร็คเตอร์เลยค่ะ แต่เพราะเป็นพล็อตและคาแร็คเตอร์แบบที่เราชอบอ่าน เราจึงค่อนข้างชอบเล่มนี้

คะแนนที่ 70




View all my reviews

No comments: