Surviving Raine by Shay Savage
My rating: 2 of 5 stars
เราอ่านงานเขียนของเชย์ ซาเวจมาก่อน (กับชุดเอแวน อาร์เดน) ไม่ได้ถึงกับคลั่งไคล้ จึงไม่ได้ถึงขนาดไปไล่ตามงานเล่มอื่น ๆ ของเธอมาอ่านหรอกค่ะ แต่เพราะหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของเธอ (Bastian's Storm) ซึ่งเป็นเล่มสองในชุดนี้ ดันโยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับชุดเอแวน อาร์เดน (ซึ่งแม้เราจะบอกว่า อ่านจบก็งั้น ๆ แต่ในแง่คาแร็คเตอร์ เราชอบเอแวนมาก ๆ ค่ะ) ก็เลยทำให้เราเกิดแรงฮึดไปหยิบเล่มนี้มาอ่าน เพื่อเตรียมตัวอ่านเล่มสอง
พออ่านเข้าจริง คงต้องบอกว่า ดีกว่าที่คิด (แต่แค่สองดาว เพราะตอนนี้อารมณ์ไม่ดีค่ะ กดคะแนนทุกอย่าง) อันที่จริงช่วงต้นเรื่องถือว่าสนุกมาก ๆ เลยล่ะ เพียงแต่เนื้อเรื่องหยุดอยู่กับที่ ไม่มีพัฒนาการ เราก็เลยเบื่อช่วงครึ่งหลังของเรื่องมาก ๆ อีกอย่างเราไม่ชอบเรื่องติดเกาะ
เรื่องถูกเล่าผ่านคาแร็คเตอร์ที่เป็นผู้ชาย (อันเป็นสไตล์การเขียนของคนแต่งที่โดดเด่น และทำให้เราอ่านหนังสือของเธอในตอนแรก) ซึ่งเล่มนี้คือกัปตันเรือนามว่า เซบาสเตียน ชีวิตเขาไม่มีอะไรมาก แค่การดื่มเหล้า และรอวันตาย บอกได้แค่นั้น (มีส่วนเล็ก ๆ แต่เล็กมาก ๆ นะคะ ทำให้เรานึกถึงกัปตันเอแฮป) จนกระทั่งวันนึงบางอย่างเกิดขึ้น และเรือที่เขาควบคุมจมลง เซบาสเตียนไม่รู้ว่ามีใครรอดชีวิต แต่เขาช่วยชีวิตเด็กสาวได้หนึ่งคน ทั้งคู่ล่องลอยไปในทะเลกว้างพร้อมกับอุปกรณ์ยังชีพไม่กี่ชิ้น
เมื่อถึงจุดนั้น คนอ่านเริ่มรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเซบาสเตียนมากขึ้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้วิธีเอาชีวิตรอดในสถานการณ์เช่นนั้น ดังนั้นจึงเป็นโชคดีของเรนน์ที่เธอมีเซบาสเตียน แม้เขาจะปากร้าย โมโหง่าย และชอบใช้ความรุนแรง อย่างช้า ๆ เซบาสเตียน และเรนน์เริ่มเปิดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ที่นำพาพวกเขามาถึงจุดที่เป็นอยู่
เราชอบช่วงติดอยู่ด้วยกันบนแพนะคะ เราชอบการเล่าเหตุการณ์ในอดีต เพราะทำให้เรารู้จักตัวละครมากขึ้น แม้ว่า
ถ้าเรื่องนี้เป็นหนัง เราก็คงต้องบอกว่า คนเขียนบทประหยัดค่าตัวนักแสดงไปหน่อย เพราะทั้งเรื่องมีแค่เซบาสเตียน และเรนน์ การได้เห็นมุมมองของเซบาสเตียนที่เขาเป็นคนเล่าเรื่องก็สนุกดีค่ะ แต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทุกอย่างเป็นเรื่องอดีต การโทษตัวเอง แล้วก็กลับไปอดีตใหม่อีกรอบ ดังนั้นเมื่ออ่านไปครึ่งเล่มเราก็ถึงจุดที่ต้องบอกว่า พอเถอะนะ
แต่เรื่องก็ยังดำเนินไปในแนวนั้นอยู่ เพราะหลังจากติดอยู่ด้วยกันบนแพล่องไปในมหาสมุทร ทั้งคู่ก็พบเกาะ เลยมาติดเกาะแทน ก็ยังอยู่ด้วยกันสองคนอีก
ดังนั้นหากจะว่ากันตามจริงก็คือเราเบื่อน่ะค่ะ มันเป็นการพูด แล้วก็พูด แล้วก็พูด (หรือเป็นการคิด) แต่ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเลย
ตอนท้ายเรื่องพิสูจน์สิ่งที่เราคิดนะคะ เพราะเมื่อมีคนมาช่วยทั้งสองออกจากเกาะ เรารู้สึกว่า เรื่องน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นมาหน่อย แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
View all my reviews
No comments:
Post a Comment