Tuesday, January 20, 2009

Demon's Kiss // Eve Silver

เราได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับฝีมือของอีฟ ซิลเวอร์คนแต่งเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้วล่ะค่ะ หลายคนบอกว่าเธอเขียนหนังสือน่าอ่าน และสนุก ที่สำคัญเรื่องของเธอมีความแปลกใหม่ และแตกต่างออกไป

แต่ไม่รู้ว่าเพราะได้ยินอย่างนี้มาเยอะไปรึเปล่านะคะ เราก็เลยค่อนข้่างผิดหวังกับงานเล่มนี้ของเธอมากเลยล่ะ เพราะมันไ่ม่ได้มีอะไรใหม่หรือแตกต่างไปจากหนังสือชุดแนวพารานอมอลที่ขายกัน อยู่เลย

Demon's Kiss ของอีฟ ซิลเวอร์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุด Compact of Sorcerers ที่บอกตามตรงว่าเปิดตัวได้ไม่สวยเอาเสียเลยล่ะ เพราะมันไม่น่าสนใจ หรือน่าติดตามให้อ่านตอนต่อไปเลย (แต่อีฟก็โชคดีค่ะ ที่กว่าเราจะมาอ่านเ่ล่มนี้ แม็กซ์ก็หลงซื้อเล่มสองมาแล้ว ทำให้ยังไงก็คงได้อ่านกันต่อแน่)

Compact of Sorcerers เป็นกลุ่มของพ่อมดที่มีหน้าที่ปกป้องรักษากำแพงมิติระหว่างโลกมนุษย์ และดินแดนแห่งปีศาจ ด้วยสัญญาที่ทำกันมานานหลายหมื่นปี เหล่าพ่อมดพวกนี้ซึ่งมีความเป็นอมตะมีหน้าที่ในการดูแลให้เกิดความสมดุล ระหว่างมนุษย์ และปีศาจ พวกเขาไม่มีสิทธิเข้าไปก้าวก่ายความเป็นตายของมนุษย์

ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่เคียรานไม่อาจช่วยชีวิตพ่อและแม่ของคลีได้ เขาพบคนทั้งสามบนถนนเปลี่ยวแห่งนึง ประสบอุบัติเหตุ พ่อและแม่ของเธออาการหนักเกินเยียวยาแล้ว ในขณะที่คลีเองก็กำลังจะตายเช่นกัน เพื่อมนุษยธรรมเคียรานส่งพลังของเขาให้คลีเพื่อให้เธอจะได้ไม่ต้องทรมานเจ็บ ปวด แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันและไม่น่าเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น เมื่อคลีดูดพลังของเขามาใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บของเธอเอง จนทำให้เขาอ่อนแอลง และกลายเป็นเป้าโจมตีของปีศาจที่ลอบทำร้าย

ยี่สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก คลีที่บัดนี้อายุยี่สิบแปดปี และเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสอง กำลังทำงานพิเศษภาคค่ำด้วยการเป็นแคชเชียร์เฝ้าโรงแรมราคาถูก ได้เผชิญหน้ากับปีศาจที่มุ่งหมายเอาชีวิตเธอ เคียรานปรากฎตัวขึ้นและช่วยชีวิตเธอไว้ได้ จากนั้นคลีก็ถูกชักนำเข้าสู่โลกเหนือธรรมชาติที่ไม่เคยคิดว่ามีอยู่จริง

เพราะเหตุการณ์ในวันที่เขาช่วยชีวิตคลี เคียรานต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า เขาถูกด้านมืดของปีศาจครอบงำ แม้กระนั้นเขาก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองในการพิทักษ์โลกต่อไป และเมื่อเพื่อนพ่อมดคนนึงของเขาแจ้งข่าวว่าย่าซึ่งเป็นดูแลคลีมาตั้งแต่พ่อ แม่ของเธอตาย ได้ตายลงอีกคน เขาจึงตัดสินใจแวะไปหาเธอเพื่อดูว่า คลีเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากไม่ได้เจอกันเลยตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา

และการมาของเคียรานก็ได้จังหวะเหมาะ เพราะปีศาจหัวใสรู้แล้วว่า คลีคือกุญแจที่จะใช้ในการเปิดประตูระหว่างมิติได้ พวกนั้นจึงตามล่าเธอ โดยมีศัตรูเก่าของเคียรานเป็นหัวหอก นอกจากนี้เรื่องมันยังยุ่งขึ้นไปอีก เมื่อเคียรานรู้ว่ามีคนทรยศอยู่ในหมู่พ่อมดพิทักษ์โลกของพวกเขา

มันอาจจะเป็นอาการกลัวพล็อตนิยายแนวสลักจิตของแม็กซ์ก็ได้นะคะที่ทำให้ เริ่มต้นด้วยความแอนตี้นิยายเรื่อง ในตอนเปิดเรื่องเมื่อเคียรานช่วยชีวิตคลีในวัยแปดขวบเอาไว้ เราก็ฝังใจไปแล้วว่าจะต้องเป็นพล็อตแนวรักเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก (ซึ่งมันก็น่าอ่านนะคะ ถ้าพระเอกวัยใกล้เคียงกันคือเป็นเด็กเหมือนกัน แต่นี่พระเอกโตเต็มวัยแล้ว แม็กซ์เกิดอาการคลื่นไส้น่ะค่ะ) แต่ก็ยังเป็นโชคดีที่คนแต่งไม่ได้ใช้พล็อตนี้หรอกนะคะ เพราะเคียรานไม่เคยคิดถึงนางเอกในแง่ชู้สาวเลย จนกระทั่งได้พบเธอในวัยยี่สิบแปดปีแล้ว

แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้วล่ะ แล้วแม็กซ์เกิดอาการไม่สบอารมณ์เท่าไหรระหว่างอ่าน ยิ่งได้เจอกับคำสบถของพระเอกที่คิดและพูดตลอดเวลาว่า "Christe" แล้วหงุดหงิดโคตร รำคาญก็เท่านั้น เวลาอ่านเจอแล้วอยากจะเขวี้ยงหนังสือทิ้งไปเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องใช้คำอย่างนี้ จะบอกว่า สบถเป็น "Christ" ก็ไม่ใช่ มันเป็นภาษาอะไรกันวะ

โอเคความรำคาญและรังเกียจส่วนตัวหมดไปแล้ว แม็กซ์ขอวกกลับเข้ารีวิวที่เป็นเหตุผลหน่อยแล้วกันนะ นอกจากความน่ารำคาญของพระเอกที่สบถเป็นศัพท์ที่แม็กซ์เกลียดแล้ว พล็อตเรื่องมันยังเป็นสูตรสำเร็จมาก ๆ ไม่มีอะไรสร้างสรรให้น่าอ่านสักนิดเดียว พระเอกเป็นส่วนหนึ่งของพ่อมดอมตะที่มีหน้าที่พิทักษ์โลก ต้องมาคุ้มครองนางเอกที่ถูกผู้ร้ายตามล่า ทั้งสองเจอหน้ากันก็เกิดอาการประกายไฟสป๊าคซ์ทันที เรื่องพวกนี้มันไม่มีอะไรใหม่ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายอะไรหรอกนะคะ กับหนังสือที่ใช้พล็อตแบบสูตรสำเร็จ เพราะนักเขียนหลายคนก็ใช้ แต่ยังเขียนให้เรื่องน่าอ่านได้มากกว่านี้

แต่ในเล่มนี้มันเอื่อย และไม่น่าสนใจ แม็กซ์ไม่รู้สึกว่าเคียรานและคลีมีอะไรเป็นพิเศษที่น่าติดตาม หรือน่าสนใจเลย มันราบเรียบไปหมด (ยกเว้นเวลาที่เคียรานสบถ แล้วแม็กซ์ก็อยากจะเขวี้ยงหนังสือทิ้งด้วยความรำคาญ)

บอกตามตรงนะคะ ว่าถ้าไม่ได้หลงซื้อเล่มสองในชุดนี้อ่านแล้ว ก็คงบอกศาลาเลิกอ่านชุดนี้ไปเลยดีกว่า

คะแนนที่ 57

No comments: