หุบปากซะ ถ้าคิดไม่เหมือนฉัน

คงเพราะว่างงานมั้งคะ วันนี้ถึงได้แส่หาเรื่อง (อีกแล้ว) แวะเข้าไปอ่านข้อความในบอร์ดที่จุดประกายประเทิงปัญญาให้แม็กซ์มาก ๆ แล้วก็ได้เรื่องเลย มีหัวข้อมาคุยให้ฟังอีกแล้ว

<เตือนไว้ก่อนว่า ทั้งหมดที่เขียนต่อนี่เป็นความเข้าใจของแม็กซ์คนเดียว ไม่มีเอกสารยืนยันความถูกต้อง หรือความเห็นของนักวิชาการหรอกนะคะ เราคิดอย่างที่เขียน เพราะเข้าใจยังงั้น>

ก่อนอื่นขอพูดถึงความแตกต่างระหว่างบอร์ดที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าไปแสดง ความเห็นสาธารณะ กับบลอกส่วนบุคคลกันก่อนแล้วกัน เพราะนี่เป็นประเด็นใหญ่ที่แม็กซ์จะพูดในวันนี้

สำหรับบลอกมันเป็นข้อเขียนของคนเพียงคนเดียว หรืออาจจะหลายบุคคลก็ได้ เขียนเรื่องอะไรก็แล้วแต่ที่อยากจะเขียน ส่วนคนอ่านก็มีทางเลือกว่าจะอ่านหรือไม่อ่าน ขึ้นอยู่กับทัศนคติของเจ้าของบลอกคนนั้น ถ้าถูกใจก็อ่านกันไป ถ้าไม่ชอบ ก็เลิกอ่าน แม็กซ์มองบลอกเหมือนบ้านของเจ้าของบลอก ดังนั้นคนที่จะเข้ามาคอมเม้นต์ในบลอกก็ต้องมีมารยาทเกรงใจเจ้าของบ้านกันสัก หน่อย ไม่ใช่มาถึงก้อด่าเจ้าของบ้านทันที ส่วนใหญ่นะคะ ถ้าแม็กซ์ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้าของบลอกเขียน แม็กซ์ก็เลิกอ่านบลอกนั้น อย่างบลอกที่เชียร์นปก.เนี่ย แม็กซ์ก็ไม่คิดหรอกนะที่จะเข้าไปเขียนแสดงความเห็นถึงความดีความชอบของ พันธมิตร มันเป็นบ้านของเขา จะเ้ข้าไปยุ่งทำไม

บลอกที่แม็กซ์นิยมอ่านมากที่สุดก็คงจะเป็นบลอกของคาเรน สก๊อตต์ ซึ่งเป็นชาวอังกฤษและเขียนบลอกที่แสดงความเห็นของตัวเธอได้ชัดเจนมาก คอนเซ็ปต์ของบลอกของเธอก็คือ "นี่เป็นบลอกของฉัน และฉันจะเขียนในสิ่งที่ฉันอยากเขียน" (ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไสหัวไปซะ) แม็กซ์ไม่คิดว่าคาเรนทำอะไรผิด มันเป็นพื้นที่ของเธอในการถ่ายทอดความคิด ดังนั้นถ้าเธอจะบอกว่า "ฉันเกลียดหนังสือเล่มนี้" และด่าคนแต่งสารพัดจะด่า มันก็เรื่องของเธอ แฟนหนังสือของคนแต่งคนนั้นก็ไม่น่าเดือดร้อนอะไร เพราะมันก็แค่บลอกของคนคนเดียว (แม้ความจริงว่าบลอกของคาเรนโด่งดังมาในโลกโรแมนซ์)

ดังนั้นในบลอกของแม็กซ์ คนอ่านก็คงจะเคยเจอข้อความที่แม็กซ์เขียนเองประเภท "นี่เป็นบลอกของแม็กซ์นะคะ ขอความกรุณาคนที่เห็นต่างอย่าออกความเห็น" นี่เป็นประมาณข้อความที่แม็กซ์เขียนตอนที่บลอกเรื่องนิยายของแอชรอน เพราะแม็กซ์ไม่มีเหตุผลในเรื่องนี้ การเห็นต่างก็ยิ่งทำให้แม็กซ์ของขึ้นเสียเปล่า ๆ

แต่ต้องจำกันไว้นิดนึงนะคะว่า แม็กซ์เขียนแบบนี้ในบลอกของแม็กซ์ ไม่ใช่บอร์ดสาธารณะที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้เข้ามาแสดงความเห็น

ความเห็นของแม็กซ์แตกต่างออกไปในบอร์ดสาธารณะ นั่นก็เพราะว่า มันเป็นบอร์ดที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของอย่างจริงจัง หรือถ้ามี (ในบางกรณี) ก็ควรจะเป็นคนที่เป็นเจ้าของเป็นคนวางกฎเหล็กต่าง ๆ นั่นเป็นสิทธิของเจ้าของบอร์ด แต่สิ่งที่แม็กซ์ได้อ่านในวันนี้ก็คือ การกระทำของคนที่ใหญ่คับบอร์ด (ที่ไม่ได้มาจากคำว่า cupboard หรอกนะคะ แปลตรงตัวกันนั่นแหละ) เข้าไปประกาศว่า คนที่เห็นต่างจากฉัน ไม่จำเป็นต้องเข้ามาโพสต์หรอกนะ ฉันไม่อยากรู้ ไม่อยากได้ยิน

คำถามก็คือ คุณเป็นใคร ถึงได้มีสิทธิปิดกั้นความเห็นของคนอื่นเช่นนี้ คุณไม่ใช่เจ้าของบอร์ดสาธารณะ คุณก็เป็นแค่คนคนนึ่งที่สิงวิญญาณอยู่ในบอร์ด ใช้เป็นสถานที่ในการพูดคุยกัน อะไรทำให้คุณมีสิทธิเข้ามากำหนดความเห็นของคนอื่น มีสิทธิที่จะบอกให้คนอื่นหุบปาก ถ้าหากเขาจะพูดในสิ่งที่คุณไม่อยากฟัง

มันเป็นบอร์ดสาธารณะที่มีไว้เพื่อการพูดคุยสนทนา แม็กซ์ก็เพิ่งรู้นะคะว่า จะต้องคนเห็นเหมือนกันเท่านั้นที่จะพูดคุยกันรู้เรื่อง ตอนนี้ประเทศของเราก็แตกแยกเพราะความเห็นที่แตกต่าง แต่แม็กซ์ก็ไม่คิดหรอกนะว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับประเด็นนี้ มนุษย์เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นก็เพราะความคิด ความแตกต่างทำให้โลกหมุน เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มสะสมคนที่คิดทุกอย่างเหมือนกับคุณ นั่นก็จะกลายเป็นลัทธิ (cult)

และเราก็รู้กันดีอยู่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับลัทธิ

ในสังคมไซเบอร์ไทย แม็กซ์เห็นนะว่า คนส่วนใหญ่มักเป็นผู้ตาม คำว่า "เห็นด้วยค่ะ" "จริงค่ะ" เป็นสิ่งที่เขียนได้ง่าย และไม่ได้มีอะไรผิดเลยที่เขียนอย่างนั้น คนเราไม่ชอบความขัดแย้ง นั่นก็โอเคด้วยเหมือนกัน

หลายครั้งเวลาแม็กซ์อ่านบอร์ด แล้วเจอคนเอาเรือเข้าไปขวางคนหมู่มากที่เฮโลความเห็นตามกัน ผลลัพธ์มันออกมาดูไม่สวยนักหรอกสำหรับคนนั้น แต่ประเด็นก็คือ คนที่แตกต่าง และเห็นต่างก็น่าจะมีสิทธิได้ออกความเห็น ไม่ใช่การใช้คำพูดว่า "ฉันไม่อยากฟัง"

คุณกำลังสื่อสารอยู่ในบอร์ดสาธารณะ ไม่ใช่บลอกส่วนตัว คุณกล้าที่จะแสดงความเห็นต่อคนหมู่มาก ในสถานที่ที่เปิดกว้างให้ใครก็ได้เข้ามาอ่าน ทำไมถึงได้กลัวคนอื่นไม่เห็นด้วยกับคุณด้วยเล่า

บางทีคุณอาจจะเหมาะกับการเขียนบลอกของคุณเองมากกว่าค่ะ เพราะในบลอกของคุณเอง คุณมีสิทธิเต็มร้อยที่จะประกาศให้ชาวบ้านชาวเมืองหุบปาก ถ้าไม่ชอบในสิ่งที่คุณเขียน แต่คุณไม่มีสิทธิที่จะทำเช่นนั้นในบอร์ดสาธารณะ