หนังสือเรื่องนี้ถือว่าเป็นเล่มที่แม็กซ์อยากอ่านอยู่ไม่น้อย ด้วยเหตุผลที่อธิบายยากค่ะ เพราะว่าเคยอ่านงานของเจมี่ อัลเดนมาสองสามเล่ม แต่ยังไม่ถึงกับปิ๊งเล่มไหนเป็นพิเศษ แต่พอได้อ่านคำโปรยโฆษณาหนังสือเล่มนี้เข้าว่าเป็นเรื่องราวของสำนักงานนัก สืบเอกชนที่มีสามพี่น้องช่วยกันทำงาน ก็เกิดอยากอ่านขึ้นมา (ทั้งที่พล็อตแบบนี้ก็ไม่ใช่พล็อตใหม่ หรือพล็อตโดนใจอะไรหรอกนะคะ ถึงบอกว่าอธิบายยาก)
Caught ของเจมี่ อัลเดน
นี่เป็นเล่มแรกในชุด The Gemini Man ซึ่งเ็ป็นเรื่องราวของสามพี่น้องอดีตทหารผ่านศึกในกองทัพที่หันมาเปิดสำนัก งานนักสืบเอกชนร่วมกัน เล่มนี้เป็นเรื่องของเอธาน น้องชายคนเล็ก ซึ่งเคยเป็นอดีตนักบินในกองทัพเรือ
การเปิดเรื่องก็เป็นสูตรเลยค่ะ เล่าถึงความทรงเสน่ห์ของพระเอกด้วยการเขียนให้เอธานตื่นขึ้นมากลางดึกและพบ ว่าตัวเองอยู่บนเตียงในอพาทเมนต์ของผู้หญิงแปลกหน้า คนที่เขาเพิ่งเจอในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เขามีหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจากแสดงให้เห็นถึงความสามารถบนเตียงของพระเอกสักหน่อย เรื่องก็ตัดเข้ามาถึงคดีที่เอธานโดนเรียกให้เข้าไปรับผิดชอบ
หนึ่งในลูกค้าใหญ่ของสำนักงานมีปัญหา ลูกสาวของเขาหายตัวไป ดังนั้นเขาจึงเรียกเอธานมาเพื่อให้ตามหาลูกสาว ในขณะเดียวกัน ภรรยาที่หย่าขาดกันไปแล้ว ก็ส่งโทนี่นักสืบเอกชนเข้ามาร่วมสืบคดีนี้ด้วย เพราะไม่ไว้ใจสามีที่หย่าขาดกันไปแล้วว่าจะตามหาลูกสาวจนเจอ
สถานการณ์จึงบีบบังคับให้ทั้งเอธานและโทนี่ต้องทำงานร่วมกัน และตามสไตล์นิยายบราว่า ทั้งคู่ก็มีความสัมพันธ์ที่รวดเร็วพอกัน
ก่อนอื่นขอบอกว่าแม็กซ์ชอบเล่มนี้ค่ะ ชอบเอธานเอามาก ๆ เขาเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ที่สุดคนนึงที่ได้อ่านในระยะหลังมานี้ ปกติแม็กซ์จะไม่กรี๊ดไปกับการบรรยายลักษณะพระเอกนักหรอกนะคะ แต่เล่มนี้อ่านไปก็เคลิ้มไป ในฐานะน้องชายคนเล็กที่หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มพี่น้องที่หน้าดีไม่แพ้กัน (ก็แหม เดี๋ยวพี่ชายของเอธานก็จะเป็นพระเอกในเล่มต่อไปแล้วล่ะ) เขามักเป็นคนที่ถูกส่งไปจัดการกับงานที่ต้องอาศัยเสน่ห์ และเขาก็ทำได้
นอกจากนี้เรายังชอบเอธานตรงที่เขารู้ใจตัวเอง เขารู้ว่าเขาต้องการโทนี่ และไม่ลังเลที่จะคว้าตัวเธอมา เขามีเหตุผล ไม่ถึงกับออกสไตล์อัลฟ่าจนน่ารำคาญ เขาบอกโทนี่ให้อยู่ที่สำนักงานกับพี่ชายของเขา ในขณะที่เขาออกติดตามคนร้าย โดยใช้เหตุผล ไม่ใช่สั่งอย่างเดียว นั่นเพราะเอธานรู้ดีว่าเขาไม่อาจมีสมาธิตามล่าคนร้ายได้ ถ้าโทนี่อยู่ข้างนอก และอาจกลายเป็นเป้าหมายของคนร้ายได้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่เชื่อมั่นในความสามารถในการเอาตัวรอดของเธอ แต่เพราะเขาไม่มั่นใจในตัวเอง แม็กซ์ชอบเอธานจริง ๆ
ในทางกลับกัน แม็กซ์มีปัญหากับโทนี่ ไม่นับว่าชื่อของเธอที่ไม่ดูเป็นผู้หญิงเสียเลยนะ โทนี่เป็นด้านตรงข้ามของเอธาน เราเข้าใจว่าคนแต่งจะใช้พล็อตประมาณคนที่แตกต่างกันจะถูกดึดดูดเข้าหากัน แต่บอกตามตรงว่าหลังจากอ่านจนเรื่อง แม็กซ์ไม่เข้าใจว่าทำไมเอธานถึงสนใจผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอทั้งโลเล หวาดระแวง ไม่เชื่อใจเอธาน อ่านไปก็เสียดายพระเอกค่ะ
โทนี่มีประสบการณ์ในอดีตที่เคยเชื่อมั่นในชายที่ไม่มั่นคง เขาทิ้งเธอไปให้เผชิญหน้ากับความยุ่งยาก เธอเอามาตรฐานเดียวกันมาวัดเอธาน ทุกครั้งที่เขาแสดงออกว่าชอบเธอ หรือชมถึงความสามารถ (ซึ่งโอเคนะคะ เรื่องนี้โทนี่เก่งจริง ไม่ได้ถูกอ้างว่าเก่ง) เธอก็มักจะคิดในใจเสมอว่า เขาพูดไปโดยไม่มีความจริงใจ
นอกจากประเด็นที่นางเอกไม่ค่อยจะคู่ควรกับพระเอกแล้ว เล่มนี้ก็อ่านได้ตลอดค่ะ ในส่วนของพล็อตสืบสวน และการตามหาตัวเด็กสาวที่หายไป แม็กซ์ถือว่าสอบผ่าน ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนัก อีกอย่างเราชอบอ่านเรื่องราวระหว่างตัวเอกมากกว่าค่ะ น่าสนใจกว่าเยอะ
ถ้าจะเปรียบเทียบหนังสือเล่มนี้ เราอยากเทียบกับงานของแชนน่อน แม็คเคนน่านะคะ และไม่ใช่คล้ายกันตรงประเด็นที่พระเอกเป็นโรคจิตหรอกค่ะ แต่เป็นที่พล็อตเรื่องราวสืบสวนที่น่าสนใจ ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองเลย
อีกประเด็นนึงที่แม็กซ์เคยคุยกับเพื่อนเอาไว้ตอนที่จะหยิบเล่มนี้มาอ่าน เราบอกว่าตรงปกหลังของเรื่องเขียนได้น่าอ่านดีตรงที่เล่าถึงพี่น้องสามคน สองคนเล็กเป็นฝาแฝดที่ชอบก่อเรื่องยุ่ง ในขณะที่พี่ชายคนโตจะคอยคุมน้อง ๆ ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง พล็อตนี้เป็นพล็อตประจำนะคะ พี่ชายคนโตที่เป็นคนรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัว ส่วนน้องชายก็ใช้ชีวิตตามสบาย
เล่มนี้ทำให้เราแปลกใจได้ค่ะ เพราะมันไม่ใช่อย่างนั้น เอธานอาจจะเป็นน้องคนที่ใช้ชีวิตอย่างสบาย แต่แดนนี่พี่ชายคนโดก็ไม่ใช่คนที่คอยคุมน้องหรอก อันที่จริงอ่านดูแล้วเขาออกจะเฮี้ยวมากกว่าน้องชายด้วยซ้ำ เราว่ามันแปลกดีค่ะ เพราะถึงเราจะชอบอ่านเรื่องราวของพี่ชายคนโตที่แสนจะเยือกเย็น เรื่องของแดนนี่ พี่ชายคนโตที่อารมณ์ร้อนก็ดูน่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน
ถือเป็นเล่มเปิดตัวที่ดีมาก ๆ ของชุด ตอนนี้เราอยากอ่านเล่มต่อไปแล้วล่ะค่ะ
คะแนนที่ 73
No comments:
Post a Comment