เนื่องจากการปรับสมองให้เตรียมตัวอ่านหนังสือของเมลจีน บรู๊คต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นเมื่อแม็กซ์อ่านเรื่อง Demon Night ของเธอจบไป ก็เลยตัิดสินใจหยิบเอาเล่มล่าสุดในชุดอย่าง Demon Bound มาอ่านต่อทันที (เหตุผลที่แท้จริงก็คือ แม็กซ์อยากอ่านเรื่องของเจคซึ่งเป็นพระเอกในเล่มนี้มาก ก็เลยต้องรีบเอา Demon Night มาอ่านก่อน จะได้อ่าน Demon Bound เสียที)
และก็เช่นเดียวกันกับหนังสือทุกเล่มที่เมลจีนเขียน คุณไม่สามารถอ่านเรื่องของเธออย่างรวดเร็ว และจบภายในสองสามชั่วโมงได้ มันต้องการสมาธิทั้งหมดที่คุณมีเพื่อที่จะเข้าใจความงดงามในเนื้อเรื่องที่ เธอเขียนได้
หลายคนบอกว่าแม็กซ์ขู่มากจังเกี่ยวกับงานของเมลจีน เราไม่คิดว่าเป็นคำขู่หรอกนะคะ แต่เป็นการเตือน เพราะแม็กซ์เจอมากับตัวแล้วว่า การเร่งรีบอ่านหนังสือของเธอกลับเป็นการทำลายคุณค่าของหนังสือ เพราะทุกตัวอักษรมีความหมาย และคนอ่านต้องตื่นตัวตลอดเวลา ในการจับความสำคัญของมัน (ซึ่งถ้าคุณคิดออกก่อนที่คนแต่งเฉลย คุณก็จะแสดงความยินดีกับความเก่งของคุณเองมาก และถ้าคุณมองข้ามมันไป ก็ถึงเวลาที่จะย้อนกลับไปอ่านอีกรอบนึง
Demon Bound ของเมลจีน บรู๊ค
เมลจีน บรู๊คเป็นนักเขียนอายุน้อย (แม็กซ์อาจจะไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ) และยังเป็นนักเขียนในกลุ่มที่แม็กซ์คิดว่าได้อิทธิพลของการ์ตูนสมัยใหม่ก็ เยอะ (อิทธิพลของการ์ตูนญี่ปุ่น/ฝรั่ง ที่เป็นเรื่องราวสำหรับผู้ใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะเด็กอย่างเดียว) ดังนั้นการเล่าเรื่องของเธอจึงผสมวัฒนธรรมยุคใหม่มาก ความทันสมัยในเนื้อเรื่องไม่ต่างอะไรกับการดูหนังฮอลีวู้ดสำหรับวุ่นรุ่น เรื่องนึงเลย ตัวละครของเธอมีความเท่ห์อย่างคนรุ่นใหม่ คนที่คุ้นเคยกับสไตล์ของนักเขียนยุคเก่า ๆ (พวกแคธลีน อี วู้ดดิวิสส์) ก็อาจจะสับสนพอสมควรกับสไตล์ของเธอ
แต่เราถือว่าตัวเองเป็นคนยุคใหม่ (ว่าเข้าไป) และมีความสามารถในการปรับตัวสูง ดังนั้นจึงชอบเรื่องของเธอมาก โดยเฉพาะเล่มนี้ ที่ได้ใจไปเต็มที่เลย
Demon Bound เป็นหนังสือขนาดยาวเล่มที่สี่ในชุด และเป็นเล่มที่เจ็ดในชุดถ้ารวมเรื่องสั้นเข้าไปด้วย และเช่นเดียวกันกับเล่มอื่น ๆ แม็กซ์คิดว่าคุณควรอ่านเล่มก่อนหน้าก่อนนะคะที่จะมาเริ่มอ่านเล่มนี้ โดยเฉพาะควรอ่าน Demon Night เพราะมีสปอยล์ของเล่มนั้นอยู่เีพียบ
คงไม่ต้องเตือนนะคะว่า ถ้าอ่านต่อเนี่ย จะเป็นการสปอยล์เล่มก่อนหน้าในชุด
อลิซ เกรย์เป็นผู้พิทักษ์ที่ถูกเรียกด้วยฉายาว่า แม่ม่ายดำ ตามชื่อของแมงมุมซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ ด้วยความที่เป็นคนแปลกและไม่เกี่ยวยุ่งเกี่ยวกับใคร เธอกลายเป็นที่เรื่องเล่าที่เอาไว้ข่มขู่กลุ่มผู้พิทักษ์ฝึกหัด (อะไรคือผู้พิทักษ์ ขอให้กลับไปอ่านที่บลอกนี้แล้ว กันค่ะ) แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ อลิซมีความลับอันน่ากลัว เพราะเธอได้ทำสัญญากับปีศาจในการเอาชีวิตไมเคิล ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้พิทักษ์ ข้อตกลงที่เธอใช้เวลาเป็นร้อยปีแล้วในการหาทางออก
แต่ดูเหมือนจะไม่มีทางออก โดยเฉพาะเมื่อปีศาจตัวที่เธอทำสัญญาด้วยเริ่มตามทวงคำสัญญานั้น ในระหว่างที่เธอกำลังเดินสำรวจวิหารโบราณ ปีศาจหลายตัวลอบเข้าทำร้ายเธอ แต่โชคดีที่ในเวลานั้นผู้พิทักษ์ฝึกหัดอย่างเจค ดันหลงทางไปโผล่แถวนั้นพอดี
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ผู้พิทักษ์มือเก่าอย่างอลิซ ได้รู้จักและสนิทสนมกับเจคผู้พิทักษ์มือใหม่
เจคเป็นส่วนที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ เขาเป็นมือใหม่ทีทำพลาดเป็นประจำ โดยเฉพาะพรสวรรค์ในการเคลื่อนที่จากจุดนึงไปอีกจุดนึง ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถที่หาได้ยากมากในหมู่ผู้พิทักษ์ เขายังพลาดเสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือการตั้งใจจะกลับเคย์ลัม (หรือสวรรค์) แต่ดันหลงไปยังวิหารเก่า ๆ ในทะเลทราย จนได้พบกับอลิซ
และทำให้ทั้งคู่รู้ว่า ทั้งสองมีความสนใจในโบราณคดีเหมือนกัน และยิ่งกว่านั้นทำให้เจคเป็นคนแรกที่ได้รู้จักตัวตนของอลิซอย่างจริง ๆ ทั้งคู่ร่วมมือกันในการค้นหาความลับที่อยู่ในวิหารโบราณนั้น วิหารที่มีรูปปั้นและภาพเขียนที่เล่าเรื่องราวกำหนดของผู้พิทักษ์ การค้นพบโครงกระดูกของผู้พิทักษ์ที่เสียชีวิตในหลุมศพประหลาด การหลงทางไปยังนรกของเจคและอลิซ และสุดท้ายความลับอันน่ากลัวของไมเคิลผู้นำของเหล่าผู้พิทักษ์
หลังจากสองเล่ม (Demon Moon และ Demon Night) ที่เรื่องโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นหลัก เล่มนี้กลับมาสู่การดำเนินเรื่องด้วยพล็อตอีกครั้ง และเล่มนี้แม็กซ์ถือว่ามีการเคลื่อนไหวในส่วนของพล็อตเรื่องของชุดมากที่สุด เราได้ค้นพบความจริงหลายอย่างที่เคยคิดว่าจริง แต่แท้จริงแล้วมันมากกว่านั้น
การดำเนินเรื่องก็น่าติดตามตลอดทั้งเล่ม แทบจะไม่มีช่วงเวลาให้พักหายใจ หรือละสมาธิจากการอ่านได้เลย ทุกรายละเอียด คำพูดเล็ก ๆ กลายเป็นสิ่งสำคัญในเวลาต่อมาเกือบทั้งสิ้น
ถึงแม้จะเต็มไปด้วยเหตุการณ์ และความลับที่เปิดเผย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเจคและอลิซด้อยลงไปเลยนะคะ เจคเป็นคนแรกที่มองเห็นอลิซว่ามีอะไรมากกว่าเสื้อผ้าชุดดำ และแมงมุมน่ากลัว ในขณะเดียวกันอลิซก็มองเห็นลึกลงไปมากกว่าผู้พิทักษ์ฝึกหัดที่เอาแต่เล่นตลก หรือปากปีจอ เธอมองเห็นชายหนุ่มที่กล้าหาญพอที่จะเสียสละชีวิตให้กับคนอื่น เธอมองเห็นความเฉลียวฉลาดที่ทุกคนมองข้าม เธอมองเห็นผู้ชายที่อ่อนโยนและยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ
และเธอก็รู้ว่า ตัวเองจะเป็นต้นเหตุทำให้เขาตาย เพราะคำสัญญาที่เธอให้ไว้กับปีศาจในการเอาชีวิตไมเคิล ทำให้ดวงวิญญาณของเธอตกอยู่ในอันตรายของการตกนรกไปตลอดกาล อลิซไม่ต้องการทรมานเช่นนั้น แต่เธอก็ไม่อาจฆ่าไมเคิลได้
สถานการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางออก แต่ทางออกที่คนแต่งเสนอให้กับตัวละครเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด และฉลาดที่สุด แม็กซ์ไม่รู้ว่าจะชื่นชมยังไง เพราะมันเหมาะเจาะลงตัว และแม็กซ์พูดไปรึยังว่าฉลาด
แม็กซ์ไม่คิดนะว่าจะเจอตัวละครที่แม็กซ์ชอบมากไปกว่าคอลิน (พระเอกเรื่อง Demon Moon) แต่ขอบอกว่าเจคแซงหน้าไปได้ (อาจจะนิดหน่อยนะ แต่ก็แซง) ผู้พิทักษ์ฝึกหัดที่มีอดีตเป็นทหารผ่านศึกเวียดนาม เขาอ่อนด้อยทั้งประสบการณ์ และยังไม่อาจควบคุมพรสวรรค์ของตัวเองได้ดีนัก (เหล่าผู้พิทักษ์จะได้รับพรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งหลัง จากพวกเขาถูกเปลี่ยนจากมนุษย์มาเป็นผู้พิทักษ์) แต่เจคได้ใจมาก ๆ ในเรื่องความน่ารัก และความรักที่เขามีให้อลิซ
เพื่อนของแม็กซ์คนนึงที่ได้อ่านเรื่องบอกกับแม็กซ์ว่า เธอจินตนาการไม่ออกเลยที่เมลจีนเอาเจคมาเป็นพระเอกก่อนหน้าตัวละครตัวอื่น เพราะเขาดูเป็นเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบ (จากตอนที่เขามีบทในเล่มก่อนหน้า) ในขณะที่แม็กซ์แทบจะอดใจรอไม่ได้เลย ในการอ่านเรื่องนี้ เพราะเรารู้สึกเสมอว่าเจคน่าสนใจมาก ๆ และเราชอบเสมอว่าคนที่ดูเหมือนจะไม่มีคุณสมบัติของพระเอก กลายมาเป็นพระเอก และในส่วนนี้เมลจีนทำได้ดีมาก เพราะเจคยังเป็นคนเดิม มือใหม่ที่ความตกใจยังทำให้เขาหายตัวไปโผล่ตามที่ประหลาด ๆ ผู้ชายที่พูดจาไม่ระวังปาก (คิดเอาว่า เขาบอกนางเอกว่า เขาอยากจะใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากขึ้น เพราะว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไม่ทำให้เขาคิดถึงเรื่องเซ็กส์) แต่เขาคือพระเอกแท้และแน่นอน
ยิ่งมาจับคู่กับอลิซซึ่งว่ากันตามตรงก็เป็นผู้หญิงที่อายุมากกว่า (เธอเกิดในยุควิคทอเรียน) และเป็นผู้พิทักษ์ที่มีประสบการณ์สูงกว่า ก็เลยยิ่งถูกใจแม็กซ์ แต่ว่ากันตามตรงนะคะว่า หลังจากอ่านเล่มนี้แล้ว เราคิดว่าสองคนนี้เหมาะสมกันที่สุด
สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านเรื่องในชุดนี้ แม็กซ์ไม่ขอแนะนำให้เริ่มต้นอ่านที่เล่มนี้หรอกนะคะ เพราะคุณจะได้เจอกับความงงชนิดค้นหาชีวิตไม่เจอเลยล่ะ แต่เล่มนี้เป็นเล่มที่ไม่ควรพลาด และถ้าคุณต้องอ่านทั้งสี่เล่มก่อนหน้า (แม็กซ์ไม่นับเรื่องสั้น) เพื่อที่จะได้คิวอ่านเล่มนี้ เราก็ขอแนะนำให้ทำ เพราะมันคุ้มค่า คุ้มค่าจริง ๆ
คะแนนที่ 90
No comments:
Post a Comment