เมื่อคืนเกิดอาการบ้าพลังค่ะ หยิบหนังสือแนวเน่า หรือที่มีชื่อเรียกกันอย่างเป็นทางการว่า Harlequin Presents มาอ่านสามเล่มติด
ผลออกมาผิดคาดนะคะ เพราะเราว่ามันดีกว่าที่คิดเยอะเลย
The Markonos Bride ของมิเชลล์ รีด
เล่มนี้เป็นเล่มที่สนุกที่สุดในบรรดาสามเล่มที่ได้อ่านค่ะ อาจเพราะพล็อตเรื่องมันถูกใจแม็กซ์ด้วยก็ว่าได้ เรื่องของสามีภรรยาคู่นึงที่แต่งงานกันเร็วเกินไป ท่ามกลางการขัดขวางของคนจากทั้งสองครอบครัว และเมื่อเกิดโศกนาฎกรรมาขึ้น ทั้งคู่ก็ไม่รู้ว่าจะรับมือกับมันยังไง นอกจากแยกจากการ ก่อนที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง
แอนเดรส มาร์โคโนสเป็นทายาทของตระกูลมหาเศรษฐีแห่งกรีก (ทำใจนะคะส่วนใหญ่พระเอกของหนังสือแนวนี้ก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น) ที่เมื่อห้าปีก่อนแต่งงานกับหลุยซ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษผู้เดินทางมา เที่ยวยังเกาะส่วนตัวที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ ทั้งที่ครอบครัวของเขาและเธอขัดขวางอย่างสุดกำลัง แต่ทั้งสองก็ไม่สนใจ และคิดว่าความรักมันเพียงพอ
แต่แล้วความรักก็ไม่อาจช่วยให้พวกเขาเอาชนะโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นได้ ลูกชาวคนเดียวของทั้งคู่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และแทนที่ทั้งคู่จะหันหน้าเข้าหากันเพื่อปลอบประโลมความเศร้าที่เกิดขึ้น ทั้งคู่กับแยกห่างจากกัน จนนำไปสู่การเดินทางกลับอังกฤษของหลุยซ่า หลังเธอไม่อาจสู้กับการจมอยู่กับความเศร้าตามลำพัง และตามมาด้วยการขาดการติดต่อยาวนานห้าปี
ครั้งนี้ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง ด้วยการชักใยของแม่ของแอนเดรส แต่ที่แม็กซ์ชอบ ก็เพราะการชักใยครั้งนี้ไม่ได้ทำไปเพื่อให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง แม่ของแอนเดรสต้องการให้ลูกชายของเธอเห็นว่า เวลาห้าปีทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยมีของเขาและหลุยซ่าจบลงแล้ว เพื่อให้เขาหย่าขาดและเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่แผนชั่วของเธอก็กลายเป็นการจุดประกายความรักของทั้งสองอีกครั้ง
เล่มนี้อ่านง่ายตามสไตล์เพรสเซ่นค่ะ ไม่ต้องคิดมากอะไร เราชอบมากกว่าเล่มอื่นก็เพราะพระเอกของเรื่องอ่อนไหวและมีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่คนประเภทโรคเก็กครอบงำ (ที่สำคัญเป็นฝ่ายบอกรักนางเอกก่อนอีกต่างหาก)
คะแนนที่ 63
Bought: The Greek's Bride ของลูซี่ มอนโรว์
ครึ่งเล่มแรกของหนังสือเล่มนี้น่าเบื่อโคตร เป็นหนังสือที่ไร้จุดหมายมากที่สุดเล่มนึงที่ได้อ่าน แต่ยังดีว่าครึ่งหลังของเล่มค่อนเริ่มมีเนื้อหาและความสนุกขึ้นมา ก็เลยทำให้ไม่ถึงกับเสียเวลาอ่านเล่มนี้ไปเท่าไหรค่ะ
พระเอกของเรื่องเป็นมหาเศรษฐีกรีกอีกแล้วค่ะ แต่คราวนี้ไม่ได้รับมรดกมา แซนโดสเป็นเศรษฐีที่สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกำลังตัวเอง แม่ของเขาเป็นสาวกรีกที่โดนหนุ่มอเมริกันหลอก ก่อนจะทิ้งไปโดยมีเขาอยู่ในท้อง ทำให้เขามีปมในใจหลายเรื่อง ส่วนนางเอกเอลีนอร์เป็นลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้ซึ่งคาบช้อน เงินช้อนทองมาเกิด เขาต้องการแต่งงานกับเธอเพราะเธอเหมาะสม ทั้งสวยถูกใจ รวยได้ที่ และที่สำคัญพ่อของเธอยื่นข้อเสนอให้เขากลายเป็นทายาททรัพย์สมบัติของตระกูล หากเขาเป็นลูกเขย
แซนโดสขอเอลีนอร์แต่งงานตั้งแต่ตอนเปิดเรื่อง ซึ่งสาวเจ้าก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ เพราะหนุ่มไม่ยอมบอกรัก และในฐานะของหญิงสาวที่โตมาอย่างปราศจากความรัก (เพราะพ่อของเธอสนใจแต่ธุรกิจ) เธอก็ไม่อยากใช้ชีวิตกับชายที่ไม่รักเธอ ครึ่งเล่มแรกมันก็มีแค่นี้ล่ะค่ะ หนุ่มขอสาวแต่งงาน สาวเล่นตัว มีเซ็กส์กันนิดหน่อยพอให้คนอ่านตื่นเต้น จากนั้นสาวเจ้าขอเวลาคิดหนึ่งอาทิตย์ ระหว่างนั้นเธอไปสเปน
แม็กซ์เกือบจะเลิกอ่านแล้วแหละเพราะเรื่องมันไม่มีจุดหมายเอาเสียเลย เรื่องเริ่มสนุกขึ้นมาเมื่อนักสืบเอกชนที่แซนโดสจ้างให้ติดตามเอลีนอร์ถ่าย ภาพสำคัญที่โชว์เธอกำลังจู๋จี๋หนุงหนิงกับเศรษฐีชาวสเปนอีกคน ซึ่งเมื่อแซนโดสเห็นเขาก็ฟิวส์ขาด บอกความจริงถึงเหตุผลที่เขาต้องการแต่งงานกับเธอ พร้อมทั้งบอกเลิก
ปัญหาก็คือหญิงสาวในรูปไม่ใช่เอลีนอร์ แต่เป็นบางคนที่หน้าเหมือนเธอ
อย่างที่บอกค่ะว่าแม็กซ์ชอบครึ่งเล่มหลัง ชอบเพราะเอลีนอร์ไม่แคร์แซนโดสที่เขาทิ้งเธอ ชอบเพราะแซนโดสเป็นฝ่ายต้องกลับมาง้อก่อน แต่ก็ไม่รู้นะคะว่ามันช้าเกินไปไหม
คะแนนที่ 53
The Spaniard's Marriage Demand ของแม็กกี้ คอซ
แม็กซ์ว่าเล่มนี้ดูแปลกจากแนวเพรสเซ่นทั่วไปนิดหน่อยค่ะ โดยเฉพาะคาแร็คเตอร์ของพระเอกและนางเอกให้ความรู้สึกเหมือนนิยายโรแมนซ์แนว ปัจจุบันเล่มหนาทั่วไปดี พระเอกของเรื่องเป็นผู้กำกับหนังที่แสนจะโด่งดังชาวสเปน ส่วนนางเอกเป็นบรรณารักษ์ที่อยู่ระหว่างการท่องเที่ยวเพื่อเก็บข้อมูลในการ เขียนหนังสือ พระเอกและนางเอกเล่มนี้ดูเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลมากกว่าตัวเอกคนอื่น ๆ ในหนังสือเพรสเซ่น
ทั้งสองได้เจอกันในที่พักตากอากาศในสเปน อิสซาเบล่าขอพบกับลีแอนโด้ตามคำขอร้องของน้องสาวซึ่งเป็นนักข่าว และต้องการให้อิสซาเบลหาข่าวจากลีแอนโด้ แต่เมื่อพบกัน ภาระที่เธอรับมาจากน้องสาวมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะนี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่อิสซาเบล่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ และมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ดูเหมือนจะสูงเกินเอื้อม
มันเป็นเวลาเพียงแค่คืนเดียว คืนเดียวที่อิสซาเบล่ารู้ว่าลีแอนโด้จะต้องลืมเธอ แต่เธอจะไม่มีวันลืมเขา ทั้งคู่แยกจากกันในเช้าวันรุ่งขึ้น ลีแอนโด้เลือกที่จะไม่ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ และบอกให้เธอติดต่อเขา เพราะเขากลัวว่าเธอจะให้ข่าวนั้นกับน้องสาวตัวเอง ทำให้เขาตกเป็นเป้าของข่าวอื้อฉาว
และนั่นทำให้เขาไม่รู้เลยว่าอิสซาเบล่าตั้งท้อง และเธอก็ไม่มีทางที่จะติดต่อเขาเพื่อบอกข่าวนี้ได้เลย เขาเป็นคนดังและความพยายามทุกอย่างที่จะติดต่อเขาถูกปิดกั้นไว้ทั้งหมด จนกระทั่งวันนึงที่ลีแอนโด้เดินกลับเข้ามาในชีวิตของเธอ
พล็อตเรื่องอาจจะดูเหมือนแนวเพรสเซ่นนะคะ แต่ตัวละครดูเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลดี อ่านแล้วไม่ค่อยหงุดหงิดนัก ไม่มีอาการทำตัวงี่เง่า ปัญญาอ่อน ทุกอย่างเป็นเหตุเป็นผล อิสซาเบล่าก็ไม่ได้มีความทนทานตามประสานางเอกที่น่ารำคาญนัก (เช่นถ้าเป็นนางเอกของเพรสเซ่นคนอื่นก็จะทำตัวเป็นคนดีดี้ดี ขนาดว่าญาติพี่น้องเลวกับตัวเองแล้วก็ยังทนอยู่ได้) เมื่อเธอรู้ว่าคนในครอบครัวของเธอไม่ยอมรับการที่เธอมีลูกนอกสมรส และแสดงอาการรังเกียจ เธอก็เลือกที่จะตัดพวกเขาออกจากชีวิต และใช้ชีวิตตามลำพังกับบุตรชาย ไม่ใช่ยอมทนให้พวกนั้นดูถูกอยู่ได้ พระเอกของเรื่องก็เป็นผู้ใหญ่ และมีความคิด ไม่ได้เอาแต่ใจจนน่ารำคาญ
ประเด็นที่แม็กซ์ไม่ถูกใจนักคงจะเป็นเรื่องความดังของลีแอนโด้ เพราะเราไม่คิดว่าผู้กำกับหนังแนวศิลปะชาวยุโรปจะโด่งดังในระดับที่คนแต่งพร รณามาได้นะ เขาไม่ใช่พระเอกหนังที่จะต้องมีคนมากรี๊ดสลบใส่ มันไม่น่าจะดูดัง และยิ่งใหญ่ขนาดนั้น
แต่ถึงจะบอกว่าตัวละครมีความเป็นผู้ใหญ่ดีนะคะ แต่การดำเนินเรื่องมันก็อืดอยู่สักหน่อย ทำให้อ่านไปแล้วอยากจะวางเสียหลายรอบ คะแนนก็เลยอยู่ที่ 53
No comments:
Post a Comment