แม็กซ์ตั้งใจจะทยอยเขียนถึงสนพ.ของฝรั่งที่จัดทำหนังสือโรแมนซ์ หลังจากที่เขียนเรื่องสนพ.ฮาร์ลิควินไปแล้ว ก็มาถึงคิวของสนพ.เอว่อน ซึ่งโดยส่วนตัวเรายกใ้ห้เป็นสนพ.ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งนึงในวงการโร แมนซ์ และเป็นสนพ.ที่ทำการตลาดได้เก่งที่สุดที่นึง รวมทั้งมีทีมบรรณธิการที่ยอดเยี่ยม สามารถปั้นดินให้เป็นดาวได้โดยที่แม็กซ์เองก็ยังทึ่ง
แบ็คกราวด์ของเอว่อน
คนที่อ่านหนังสือโรแมนซ์ (ภาษาอังกฤษ) แล้วไม่รู้จักสนพ.เอว่อน ก็คงต้องบอกว่า น่าจะกลับไปทบทวนชีวิตตัวเองใหม่ได้แล้ว เพราะสำนักพิมพ์แห่งนี้ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกหนังสือโรแมนซ์โดยเฉพาะแนวที่ เราเรียกกันว่า Historical Romance เพราะ ณ สำนักพิมพ์แห่งนี้นี่เองที่เราได้ต้นแบบของหนังสือโรแมนซ์ หนังสือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีเรื่อง The Flame and The Flower ของแคธลีน อี วูดดิวิสส์
The Flame and The Flower เปลี่ยนมุมมองของนักอ่านต่อหนังสือที่เขาเรียกกันว่า Bodice Ripper ว่าไม่จำเป็นต้องรุนแรง(มากนัก) นางเอกไปต้องถ่างขาไปทั่วห้าทวีป หรือลากกันไปข่มขืนทั่วโลกก็ได้ แค่โดนพระเอกข่มขืนคนเดียวก็น่าจะพอแล้ว (จากเดิมที่นางเอกต้องโดนคนมากมาย ทั้งพระเอก ตัวร้าย และคนอื่น ๆ ที่บังเอิญเดินผ่านฉากเข้ามาร่วมชุมนุมด้วย)
เอว่อนกลายเป็นสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงกับการผลิตหนังสือโรแมนซ์แนวย้อนยุค นักเขียนที่ปัจจุบันเรายอมรับในความคลาสิกก็เกิดจากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นแคธลีน อี วูดดิวิสส์, โจฮันน่า ลินด์เซย์, เชอร์ลี บัสบี้, ลอร่า คินเซล และอีกหลายคน
จุดเด่นของเอว่อนที่แม็กซ์ทึ่งเสมอก็คือ ความสามารถในการเอานักเขียนมาใส่ตระกร้าล้างน้ำ แล้วเอามาขายใหม่ ปลุกปั้นจนกลายเป็นนักเขียนดังก้องโลก
นักเขียนหลายคนเคยเขียนหนังสือให้กับสำนักพิมพ์อื่นมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่ดังสักกะที พอย้ายมาเอว่อนก็เหมือนได้กินไวอากร้า คึกคักขึ้นมาผิดหูผิดตา และความดังที่ได้มาก็ไม่ใช่เพราะการทำการตลาดเท่านั้น ฝีมือเขียนที่อาจจะเคยดูธรรมดาก็ดีขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ นักเขียนที่แม็กซ์ยกให้เป็นเพราะความดีของเอว่อนก็มี
ซูซาน อลิซาเบ็ธ ฟิลลิปที่เคยเขียนให้กับสนพ.พ็อตเก็ต แนว Women's Fiction แต่แป๊ก ก็มาเกิดใหม่กับเอว่อน
ซูซาน แอนเดอร์สั่นที่เขียนแนว Romantic Suspense ให้กับสนพ.เคนซิงตัน ก็กลายเป็นนักเขียนใหญ่ (ก่อนจะทิ้งเอว่อนไปอยู่กับฮาร์ลิควินพร้อมสัญญาเป็นเลขเจ็ดหลัก)
คินลี่ย์ แม็คเกรเกอร์ที่เขียนนิยายก๊อกแก๊กให้กับสนพ.ฮาร์เปอร์ ได้ผลดีกับการรวมกับของฮาร์เปอร์และเอว่อน ใช้ประโยชน์อันนี้จนกลายเป็นนักเขียนดังอีกคน
ในทางกลับกัน แม้เอว่อนจะมีความสามารถในการสร้างนักเขียนที่ไม่ค่อยดังกะสนพ.อื่นให้ดัง พลุแตกที่เอว่อนได้ แต่ก็มีคำพูดที่กระทบกระเทียบเอว่อนอยู่เกี่ยวกับนักเขียนจำนวนไม่น้อยของเอ ว่อนว่าเขียนเรื่องแนวเดียวกันหมด คำศัพท์ที่เขานิยมใช้กันก็คือ Avonization หรือนักเขียนหน้าใหม่แนวย้อนยุคที่เขียนเรื่องแล้ว ก๊อปปี้แนวกันมาหมด ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่อง ตัวละคร และการดำเนินเรื่อง
ซึ่งแม็กซ์ก็ว่าจริงเช่นกัน การหยิบงานของเอว่อนมาอ่าน ผลลัพธ์ที่ได้อ่านไม่ไ้ด้เจอกับเรื่องที่สนุกสุดยอดนะคะ แต่อย่างน้อยก็มีมาตรฐานในระดับนึงที่ไม่น่าผิดหวัง มันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ใช้ได้ทีเดียว คนอ่านไม่ต้องเสียงกับเรื่องห่วย ๆ แต่ก็ยากที่จะเจอเพชรในตมกับการอ่านงานของเอว่อน
ประวัติศาสตร์ของเอว่อน
สำนัำกพิมพ์เอว่อนก่อตั้งขึ้นในปี 1941 โดยบริษัทที่ชื่อว่า อเมริกัน นิวส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งก่อตั้งเอว่อนขึ้นมาเพื่อเป็นคู่แข่งของสำนักพิมพ์พ็อตเก็ต (ของบริษัทไซม่อนแอนด์ชูสเตอร์) ดังนั้นหนังสือในระยะแรกของเอว่อนจึงมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือที่ สำนักพิมพ์พ็อตเก็ตผลิตอย่างมาก และแน่นอนเอว่อนยังไม่ได้ทำโรแมนซ์ในขณะนั้น
ในปี 1959 เอว่อนถูกซื้อไปโดยบริษัท เฮิร์ตส์คอร์ปอเรชั่น ก่อนที่เฮิร์ตส์จะขายกิจการเฉพาะส่วนสำนักพิมพ์ (ซึ่งหมายถึงเอว่อน และมอร์โรว์ ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่ผลิตปกแข็งเป็นการเฉพาะ) ให้กับบริษัทนิวส์ คอร์ปอเรชั่น เจ้าของสำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์ คอลลินส์ ทำให้เอว่อนและฮาร์เปอร์รวมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยเอว่อนจากที่เคยเป็นสำนักพิมพ์ก็ลดระดับเป็นเพียงอิมพรินต์หนึ่งของสนพ. ฮาร์เปอร์คอลลินส์
สำนักพิมพ์เอว่อน และมอร์โรว์ผลิตหนังสือปีนึงประมาณ 1,000 เล่ม แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นแนวโรแมนซ์ โดยเฉพาะมอร์โรว์จะผลิตงานปกแข็งเป็นส่วนใหญ่ และมีนักเขียนโรแมนซ์ไม่กี่คนที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเขียนหนังสือที่ขายเป็น ปกแข็งก่อน เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็มีสเตฟานี ลอว์เรนส์, อลิซาเบ็ท โลเวลล์, และแอนเดรีย เคน
เพราะเอว่อนเป็นส่วนหนึ่งของฮาร์เปอร์คอลลินส์ ตัวเอว่อนเองก็ถือเป็นอิมพรินต์อยู่แล้ว แต่ในอิมพรินต์เอว่อนก็ยังแบ่งออกเป็นประเภทย่อยอีกซึ่งก็คือ
เอว่อน เอ ซึ่งเป็นสนพ.ที่ผลิตงานในแนว Women's Fiction เป็นหลัก ลักษณะรูปเล่มจะออกเป็นหนังสือไซด์เทรด เพื่อเรียกเงินคนอ่านให้มากขึ้น แต่ความเห็นส่วนตัวของเรา หนังสือหลายเล่มในอิมพรินต์นี้ก็ไม่ใช่เป็น WF ทั้งหมดหรอกค่ะ หลายเล่มก็คือโรแมนซ์นั่นแหละ เพียงแต่เอามาแปลงโฉมหลอกคนอ่านเท่านั้นเอง
เอว่อน อินสไปรด์ ผลิตหนังสือที่มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านคุณค่าของความเป็นคริสเตียนไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นแนวอะไรก็ตาม
เอว่อน เรด ก็ตามชื่อค่ะ สีแดงคือความร้อนแรง ดังนั้นอิมพรินต์อันนี้จึงเป็นที่อยู่ของเรื่องแนวอีโรติก โรแมนซ์
ส่วนหนังสือที่เป็นไซด์แมสมาร์เก็ต (เล่มขนาดปกติที่คุ้นเคยกัน) ก็เป็นเอว่อนเฉย ๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะออกขายประมาณเดือนละ 5 - 8 เล่ม แนวเรื่องต่าง ๆ หลากหลาย แต่อย่างน้อยต้องมีแนวปัจจุบันหนึ่งเล่ม ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นแนวย้อนยุค เพราะเป็นแนวถนัดของเอว่อนเขา แต่เท่าที่สังเกตตอนนี้เอว่อนก็พยายามที่จะบุกตลาดแนวพารานอมอลอยู่เหมือน กัน เพราะเห็นว่ากำลังรีครูตนักเขียนแนวพารานอมอลกันเป็นว่าเล่นเลย
ด้วยความที่เป็นสำนักพิมพ์ใหญ่และทรงอิทธิพล ทำให้เอว่อนไม่ค่อยจะง้อนักเขียนเท่าไหรนะคะ โดยเฉพาะในช่วงสองสามปีหลังมานี่ เอว่อนสูญเสียนักเขียนระดับแม่เหล็กที่เคยอยู่กับสำนักพิมพ์มานานไปหลายคน ไม่ว่าจะเป็นโจฮันน่า ลินด์เซย์ที่ย้ายไปสนพ.พ็อตเก็ต, ลิซ่า เคลย์แพสที่ย้ายไปเซ็นต์มาร์ติน, คริสติน่า ดอจจ์ที่ย้ายไปนิว อเมริกัน ไลเบอรี่, และซูซาน แอนเดอร์เซ่นที่ย้ายไปฮาร์ลิควิน
กลยุทธ์ที่เอว่อนใช้มาตลอด และยังได้ผลดีอยู่ก็คือการสร้างนักเขียนขึ้นเองภายใน บรรณาธิการของเอว่อนถือเป็นทีมงานที่ตาถึงมากที่สุดทีมนึงได้ค้นพบนักเขียน อย่าง จูเลีย ควินน์ และ เรเชล กิ๊บสัน
แต่ในระยะหลังมานี้ แม็กซ์ัชักจะสังเกตเจอว่า เอว่อนได้มีการดึงตัวนักเขียนที่มีชื่อในระดับนึง อาจจะไม่ถึงกับดังมาก แต่มีแววว่าจะดัง ให้เข้ามาร่วมงานกันกับสำนักพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็น เกย์เลน โฟลี่ย์, เทรซี่ แอนด์ วอร์เรน, ลินด์เซย์ แซนด์, คาโรไลน์ ลินเดน, จูลี่ แอนด์ ลองค์ และอีกหลายคน นักเขียนเหล่านี้ไม่ได้เกิดที่เอว่อน แต่เขียนงานให้กับสนพ.อื่นจนมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนหนังสือ เอว่อนเริ่มดึงตัวพวกเขาเข้ามา และทำให้หลายคนกลายเป็นนักเขียนดัง
สำหรับแม็กซ์ เราติดตามซื้อหนังสือของนักเขียนจากสำนักพิมพ์นี้อยู่ประมาณ 70 คน แต่ที่เราชอบมาก ๆ (เน้นตรงที่มากนะคะ ถ้าชอบเฉย ๆ ก็มีเยอะ) และขอแนะนำให้อ่านกันก็มี ลิซ่า มาเรีย ไรซ์ที่กำลังจะมีงานเล่มใหม่เรื่อง Dangerous Passion (ส.ค. 09), ซูซาน อลิซาเบ็ธ ฟิลลิป กับ Glitter baby (ธ.ค. 09) และ What I did for love (ม.ค. 09), ลอเร็ตต้า เชส กับ Don't tempt me (พ.ค. 09), น้องใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอย่างซานดร้า ฮิลล์กับ Ten night with a knight, สเตฟานี ลอว์เรนส์ กับ Mastered by love (ส.ค. 09), ลินด์เซย์ แซนด์กับ The Immortal Hunter (มี.ค. 09)
No comments:
Post a Comment