คริสตัล กรีนเป็นนักเขียนที่แม็กซ์เล็งมาหลายเล่มแล้วล่ะค่ะ เอาเป็นว่าถ้าเจอหนังสือของเธอในร้านมือสอง ก็คว้ามาครอบครองแน่นอนล่ะ แต่เรายังไม่เคยมีโอกาสได้อ่านหนังสือของเธอจนกระทั่งมาถึงชุดแวมไพร์ของเธอ
และโปรดอย่าสับสน คิดว่าแม็กซ์กำลังพูดถึงหนังสือชุดแวมไพร์บาบิลอน ที่เธอเขียนในนามปากกา คริส มาเรีย กรีน นะคะ แม็กซ์กำลังพูดถึงหนังสือแวมไพร์สองเล่มที่เธอเขียนให้กับฮาร์ลิควิน เบลซ
The Ultimate Bite ของคริสตัล กรีน
นี่เป็นเล่มแรกในชุด (ที่ตอนนี้) มีแค่สองเล่ม เล่าเรื่องของแวมไพร์ และในฐานะของเล่มแรก แม็กซ์บอกเลยว่า ไม่ได้เรื่องเลย และถ้าไม่เป็นเพราะแม็กซ์อ่านเล่มนี้เพราะอยากอ่านเล่มสองแล้วล่ะก้อ เราคงไม่หยิบหนังสือของเธอมาอ่านอีกเลยก็เป็นได้
คิม ไรท์ถูกแวมไพร์กัดเมื่อหลายเดือน รอยกัดที่แม้แผลจะจางหายไปแล้ว แต่เธอไม่เคยลืมเลือน เธอยังจดจำความรู้สึก ณ เวลานั้นได้ อันที่จริงเธอใฝ่ฝัน และถวิลหาแวมไพร์คนนั้นอยู่เสมอ ซึ่งนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเข้าร่วมกับกลุ่มนักปราบแวมไพร์ เธอต้องการโอกาสที่จะได้พบกับเขาอีกครั้ง
และเธอก็ได้โอกาสนั้น เพราะสตีเฟ่นได้กลับมาที่ลาสเวกัสอีกครั้ง หลังจากได้รับคำสั่งให้ออกตามล่าแวมไพร์นอกรีตที่ไล่กัดหญิงสาวในบริเวณเว กัส เขาได้พบกับคิมอีกครั้ง และทั้งคู่ก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวกันอย่างห้ามใจตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มปราบแวมไพร์ของคิมมีข้อมูลเกี่ยวกับแวมไพร์นอกรีตที่เขา ตามล่าอยู่
หนังสือเล่มนี้ถูกอิทธิพลของแนวหนังสือแบบเบลซครอบงำมากเกินไป (นั่นหมายถึงตัวละครมีเซ็กส์กันเร็วมาก จนดูไม่น่าเชื่อ) ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสตีเฟ่น และคิมดูไม่จีรัง หรือจะยั่งยืน แม็กซ์ไม่เชื่อในความรักของพวกเขาสักนิดเดียว และรู้สึกว่าคิมเป็นเหมือนพวกกรุ๊ปปี้ (จำพวกบ้าดารา ไล่ตามทั้งวันทั้งคืน) และไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของสตีเฟ่นสักนิดเดียว
แล้วความเป็นแวมไพร์ของสตีเฟ่นก็ดูไม่บทบาทในเรื่อง เขาไม่จำเป็นต้องเป็นแวมไพร์เพื่อให้พล็อตในเล่มนี้เดินไปได้ เขาเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น เพราะเขาก็แค่ผู้ชายที่คิมเพ้อฝันถึง
อย่างที่บอกค่ะ แม็กซ์อ่านเล่มนี้เพราะเห็นพล็อตในเล่มสองแล้ว ทำให้อยากอ่านเล่มสองมาก แต่เราคิดว่าเราคงไม่อาจชื่นชมเล่มสองได้เต็มที่ถ้าไม่อ่านเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นโชคดีนะคะ ไม่อย่างนั้นแม็กซ์คงไม่มีทางหยิบเล่มสองมาอ่านแน่ เพราะเล่มนี้สอบตกอย่างรุนแรง
คะแนนที่ 43
Good to the last bite ของคริสตัล กรีน
เริ่มด้วยคำเตือนก่อนแล้วกัน ถ้าคุณอ่านต่อไป ก็จะเป็นการสปอยล์เล่มแรกเลยนะคะ ดังนั้นระวังตัวกันไว้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่าแม็กซ์ไม่เตือน
คนที่รู้จักแม็กซ์ดี ก็จะรู้ว่า เราน่ะมันพวกชอบตัวร้าย ดังนั้นเมื่อได้รู้ว่า พระเอกของเล่มนี้คือตัวร้ายรีไซเคิลมา ก็ยิ่งทำให้เกิดความอยากอ่านเป็นทวีคูณ แต่หลังจากได้อ่านเล่มแรกในชุด (ที่พระเอกเล่มนี้เป็นตัวร้าย) แล้วจะผิดหวังกับ "ความร้าย" ของเขา เราก็ยังตัดสินใจอ่านต่อ ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่ดีพอสมควรเลยล่ะ
เอ็ดเวิร์ด เป็นแวมไพร์ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่พระเอกของหนังสือแวมไพร์ชื่อดังอย่างทไวไลท์ แต่แม็กซ์คิดว่าเขาน่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันเลย เอ็ดเวิร์ดเบื่อชีวิตการเป็นแวมไพร์เต็มทน เขาไม่ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เอาเปรียบมนุษย์ การอยู่อย่างไม่มีจุดจบ หรือจุดหมาย และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาฆ่าแวมไพร์ผู้สร้างเขา เพราะกฎของแวมไพร์ในนิยายชุดนี้ การฆ่าผู้สร้างแวมไพร์ จะทำให้แวมไพร์ที่คนนั้นสร้างกลับเป็นมนุษย์เหมือนเดิม
ดังนั้นเมื่อเอ็ดเวิร์ดฆ่าผู้สร้างเขา เขาก็ทำให้ตัวเองกลายเป็นมนุษย์ แต่ก็แค่ชั่วขณะ เพราะว่าจีเซล แวมไพร์สาวซึ่งเปรียบเสมือนลูกสาวของแวมไพร์ผู้สร้างเอ็ดเวิร์ด ก็ล้างแค้นแทนทันที เธอเปลี่ยนเขากลับเป็นแวมไพร์อีกรอบ และคราวนี้เอ็ดเวิร์ดก็ต้องออกล่าจีเซล เพื่อทำให้ตัวเองกลับเป็นมนุษย์ธรรมดา
แต่เขาเป็นแวมไพร์เกิดใหม่ ในระหว่างการตามล่าจีเซล เขาถูกเธอจับ แต่จีเซลก็แสดงความเมตตาด้วยการไม่ฆ่าเขา พล็อตเรื่องเดินตามแนวที่เราชอบค่ะ จีเซลจับเอ็ดเวิร์ดไว้ และพยายามทำให้เขาเห็นข้อดีของการเป็นแวมไพร์ และสำหรับหนังสือเบลซ การทำให้เขาเห็นข้อดีจะเป็นอะไรได้ล่ะ ถ้าไม่ได้ผ่านเซ็กส์ สำหรับจีเซลแล้ว การเป็นแวมไพร์เป็นพรจากสวรรค์ เป็นการมีชีวิตอยู่ที่เธอชื่นชอบ มันอาจจะเหงา แต่ตอนเป็นมนุษย์เธอก็ไม่ได้มีความสุขนักหรอก
เราชอบเล่มนี้มากกว่าเล่มแรกเยอะ เราชอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างเอ็ดเวิร์ดและจีเซล การเริ่มต้นด้วยการเป็นศัตรู แต่ความรู้สึกค่อยเปลี่ยนไป เอ็ดเวิร์ดดื้อมากเกินไปในบางครั้ง และจีเซลดูอ่อนเกินไป แต่มันก็ยังมากพอที่จะทำให้เรื่องน่าสนใจ
สิ่งที่เราไม่ชอบก็คือพล็อตเรื่องของตัวละครรอง เราคิดว่ามันเข้ามาแทรกทำให้เรื่องราวของจีเซล และเอ็ดเวิร์ดอ่อนลง เราอยากให้คนแต่งโฟกัสเรื่องที่คู่หลักคู่นี้อย่างเดียว แต่ก็คิดว่า เธอคงไม่อยากเขียนเรื่องในชุดนี้ต่อแล้วล่ะ ก็เลยพยายามสรุปทุกอย่างให้จบลงทีเดียว
คะแนนที่ 63
No comments:
Post a Comment