Thursday, January 22, 2009

Hostage to Pleasure // Nalini Singh

มาตามคำเรียกร้องของเพื่อนหลายคนนะคะ ในที่สุดเราก็หยิบเล่มนี้มาอ่านแล้ว ดังนั้นไฟเขียวคุยกะเราเรื่องนี้ได้แล้วค่ะ (แปลว่า โทรศัพท์มาคุยได้แล้ว)

บอกเลยนะคะว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งกรี๊ดสลบกะงานของนรินี ซิงค์

เธอช่างเป็นนักเขียนที่มีพรสวรรค์อะไรอย่างนี้ (สนพ.ในเมืองไทยที่ถือลิขสิทธิ์ของเธออยู่ก็รีบเอาออกขายได้แล้วนะคะ คนไทยที่ไม่นิยมภาษาอังกฤษจะได้ชื่นชมงานมาสเตอร์พีชชุดนี้กันซะที)

Hostage to Pleasure ของนรินี ซิงค์

หนังสือเล่มที่ห้าในชุด Psy & Changeling ที่ยิ่งเขียนก็ยิ่งน่าติดตาม พรสวรรค์ของนรินี ซิงค์ก็คือการเขียนโดยไม่ปล่อยข้อมูลออกมามากหรือน้อยเกินไป มันพอเหมาะพอเจาะกับความต้องการของเนื้อเรื่อง ไม่ทำให้เกิดอาการงุนงง (อย่างงานชุด Warriors of Poseidon ของอลิสา เดย์) หงุดหงิด (อย่างชุดดาร์คฮันเตอร์ของเชอริลีน เคนย่อน) หรือลงแดงด้วยอาการอยากรู้ (อย่างชุด BDB ของเจอาร์ วาร์ด)

โลกที่นรินีสร้างในชุดนี้กว้างใหญ่ หาติดตาม และสร้างสรรที่สุดในบรรดาหนังสือชุดแนวพารานอมอลที่แม็กซ์เคยได้อ่านมา เรื่องราวของโลกมนุษย์ที่ถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม พวกไซ กลุ่มมนุษย์ที่มีความสามารถทางพลังจิต พวกชาร์เลนจิ้ง หรือคนที่มีวิญญาณร่วมกับสัตว์ และแปลงร่างเป็นสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้ และสุดท้ายก็คือ มนุษย์ธรรมดาสามัญ

ในปี 2080 ชนทั้งสามกลุ่มใช้ชีวิตแยกจากกัน ชาวไซลุ่มหลงใน "ความเงียบ" พวกเขาเข้าร่วมลัทธิความเงียบอันนี้นับตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เพราะต้องการกำจัดคนที่เลวร้ายที่สุดในกลุ่มพวกเขา เพราะมันถูกพิสูจน์มาแล้วว่า เหล่าฆาตกรอำมหิตโรคจิตส่วนใหญ่ก็คือชาวไซ ผู้ซึ่งไม่สามารถควบคุมความสามารถพิเศษที่ตัวเองมีได้ ผู้บุกเบิกได้นำลัทธิ "ความเงียบ" เข้ามาแนะนำ และมันกลายเป็นทางออกสำหรับสังคมชาวไซที่ยุ่งเหยิง แต่การได้มาซึ่ง "ความเงียบ" ชาวไซสูญเสียความรู้สึก และอารมณ์ทุกชนิดไป พวกเขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่แตกต่างสิ่งของ ไม่มีอีกแล้วซึ่งงานศิลปะ เสียงเพลง ทุกอย่างเป็นไปตามธุรกิจ เงินตราเป็นสิ่งที่ชาวไซเข้าใจ

แต่ภายใต้ "ความเงียบ" ที่ครอบงำชาวไซทุกคน การปฏิวัติอย่างเงียบ ๆ ได้เกิดขึ้น ระบบที่ดำรงพวกเขาอยู่ในความเงียบ กำลังพังทลายลงอย่างช้า ๆ ชาวไซเริ่มรับรู้ถึงผลเสียของความเงียบที่ปิดกั้นความรู้สึกของพวกเขา ในขณะเดียวกันสภาผู้ปกครองก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจของพวกเขา และจำกัดชาวไซให้คงอยู่ใน "ความเงียบ" ต่อไป

แม็กซ์อ่านหนังสือชุดนี้เรียงกันตั้งแต่เล่มหนึ่งนะคะ ก็เลยไม่แน่ใจว่า ถ้ามาเริ่มอ่านที่เล่มนี้เลยจะรู้เรื่องกันไหม แต่ก็บอกตามตรงนะคะ หนังสือชุดนี้ควรจะอ่านตั้งแต่เล่มแรก เพราะคุณจะชื่นชมกับความสามารถของนรินี ซิงค์ได้อย่างเต็มที่ วิธีการเล่าเรื่องของเธอเหนือกว่านักเขียนหลายคนที่แม็กซ์ยกย่องว่าเก่งด้วย ซ้ำ

เรื่องราวในเล่มนี้ต่อเชื่อมกับเล่มก่อนหน้าอย่าง Mine to Possess พอสมควร โดยเฉพาะมันสปอยล์ตอนจบของเล่มนั้นด้วยนะ ดังนั้นคนที่ยังไม่เคยอ่าน MTP ก็ถือว่าแม็กซ์เตือนแล้วนะคะ

อชายา เอลีนเป็นนักวิทยาศาตร์ผู้ปราดเปลื่องชาวไซ เธอเป็นความหวังเดียวของสภาผู้ปกครองชาวไซในการรักษาฐานอำนาจของพวกเขาให้คง อยู่ ด้วยแผนการสร้างชิปที่จะครอบงำจิตใจชาวไซทุกคนให้คิดเหมือนกัน และถูกปกครองโดยสภาซึ่งเป็นองค์กรสูงสุด แต่อชายาไม่เคยสนับสนุนความคิดนี้ ทว่าเธอไม่มีทางเลือก เพราะ คีแนน ลูกชายของเธอโดนจับเป็นตัวประกัน

ความหวังของอชายามาพร้อมกับสัญญาที่พวกชาร์เลนจิ้งสัญญาไว้ในตอนจบของ MTP และก็เป็นหน้าที่ของดอเรียนในการช่วยเหลือคีแนนออกมาจากเงื้อมือของสภา ภารกิจที่เขาทำสำเร็จโดยไม่ยาก สิ่งที่เขาไม่คิดก็คือ เขาไม่อาจสลัดภาพของอชายาไปจากใจได้

เมื่อหลายเดือนก่อน (เหตุการณ์ในเรื่อง MTP) ดอเรียนเล็งปืนไปที่อชายา พร้อมจะปลิดชีวิตของเธอ ถ้าเธอทำผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับชาร์เลนจิ้ง และเขาไม่เคยลืมใบหน้าของเธอนับจากนั้น ดังนั้นเมื่ออชายาสามารถหนีรอดออกมาจากห้องทดลองที่เปรียบเสมือนห้องขังของ เธอ ดอเรียนก็กลายเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองเธอในทันที

และสำหรับชายที่สูญเสียน้องสาวผู้เป็นที่รักให้กับฆาตกรโรคจิตชาวไซ (เหตุการณ์ในเล่มแรก Slave to sensation) การมอบใจให้กับชนกลุ่มเดียวกับคนที่ฆ่าน้องสาวเป็นสิ่งที่เขาแทบไม่อาจทำใจ ยอมรับได้ แต่ความเป็นเสือดาวในกายเขายอมรับอชายา แม้ความเป็นมนุษย์จะสับสนในความรู้สึกของตัวเองอยู่

อชายาเองก็เต็มไปด้วยความลับ ความลับที่มากยิ่งกว่าการทดลองลับที่เธอถูกสภาบังคับให้ทำ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างเธอและดอเรียนยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก เมื่อเธอบอกเขาว่า หนึ่ง ในความผิดที่เธอทำก็คือการปกป้องคนที่เลวร้ายในหมู่ชาวไซ (และฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของดอเรียนก็เป็นคนกลุ่มนั้น) แม้ว่าคนคนนั้นก็คือคู่แฝดของเธอเอง

พล็อตในเล่มนี้เป็นการหักเหลี่ยมกันระหว่างอชายา และสภาที่ตามล่าเธอ เพื่อปกป้องชีวิตของทุกคนที่เธอรับ อชายาเอาตัวเองเป็นเป้า เธอเปิดเผยต่อสังคมโดยรวมถึงภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากสภา ความเลวร้ายของโครงการนั้น แต่นั่นกลับเป็นการทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มสมาคมลับที่เพิ่งเปิดตัวในเล่มนี้

ในแง่ของการสร้างโลกในเรื่อง แม็กซ์คิดว่า เล่มนี้ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมมากนัก (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ MTP) แต่เป็นการเล่นในแง่ความรู้สึกของตัวละครมากกว่า ความสับสนของดอเรียน ทางเลือกของอชายาที่ต้องเลือกระหว่างดอเรียน, ลูกชายของเธอ, และคู่แฝดของเธอเอง

เล่มนี้ดีกว่าที่คิดมากค่ะ คะแนนที่ 80

ขอส่งท้ายด้วยการรำพันนิดนึงแล้วกันนะคะ เรายังกรี๊ดสลบกับคาเล็บอยู่เช่นเดิม ยิ่งอ่านยิ่งได้ใจ ตัวละครอีกตัวที่มาแรงในใจแม็กซ์ตอนนี้ก็คงเป็นอมาร่าค่ะ อยากรู้ว่านรินีมีแผนอะไรในใจให้กับเธออยู่บ้างนี่

No comments: