แม็กซ์โทษให้เป็นความผิดของทางสนพ.บราว่าเองที่ทำการตลาดจนภาพลักษณ์ของ หนังสือจากสนพ.นี้ส่วนใหญ่อยู่ในแนวโรแมนติค คอมเมดี้ ที่มีฉากเซ็กส์ฮ็อตพอควร พล็อตเรื่องสบาย ๆ ไม่ซีเรียส ทำให้เราคาดหวังหนังสือแนวที่ต่างออกจากไปจากเล่มนี้
The Matchmaker ของเจมี่ เดนตัน
หนังสือเล่มนี้ออกขายในรูปเล่มแบบไซด์เทรด (ราคาราวสิบเหรียญขึ้น) เมื่อสักสองปีก่อน แต่เพราะแม็กซ์ซึ่งเคยอ่านหนังสือของเจมี่ เดนตันซึ่งเคยเป็น (และคิดว่ายังเป็นอยู่) นักเขียนให้กับฮาร์ลิควินมาเล่มสองเล่ม แล้วไม่ถึงกับปิ๊งงานของคนแต่งคนนี้มากนัก ตัดสินใจว่า มันยังไม่น่าสนใจพอที่จะลงทุนกว่าห้าร้อยบาทเพื่อซื้อมาอ่านหรอกนะคะ
จนกระทั่งเล่มนี้ออกฉบับปกอ่อนมาเมื่อเดือนก่อน ตามนิสัยที่เห็นบราว่าปกอ่อนไม่ได้ (เพราะปกติบราว่าจะไม่ค่อยพิมพ์ฉบับปกอ่อนมากนัก) เราก็เลยซื้อมาทันที ทั้งที่ไม่ได้หวังอะไรกับมันมากนักหรอก
นั่นก็เพราะในระยะหลังมาเนี่ย งานของบราว่ามักเป็นแนวโรแมนติค คอมเมดี้ที่ไร้สาระเสียจนไม่น่าสนใจ ปกติแม็กซ์ก็อ่านงานแนวโรแมนติค คอมเมดี้นะคะ เพียงแต่้ต้องเป็นนักเขียนที่เราเชื่อใจได้ (อย่างซูซาน อลิซาเบ็ธ ฟิลลิป หรือซูซาน โดโนแวน) นักเขียนของบราว่าหลายคนเป็นนักเขียนใหม่ หรือเพิ่งผันตัวมาเขียนโรแมนซ์ขนาดยาวเป็นเล่มแรก ทำให้เราอ่านไปแล้วผิดหวังหลายรอบ
แต่พอเปิดอ่าน ก็ได้รู้ว่า เล่มนี้ไม่ใช่คอมเมดี้เลย เป็นแนวระทึกขวัญสืบสวนที่น่าอ่านในระดับนึงทีเดียว ดีเกินกว่าที่คาดหวังไว้สำหรับงานของเจมี่ เดนตันด้วยซ้ำ
เกรียร์ โลเม็คเป็นอดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ถูกคนร้ายคดีฆาตกรรมต่อเนื่องจับตัวไป ทรมานจนเมื่อหนีมาได้ เธอสติแตก และลาออกจากงาน หันมาเป็นผู้ช่วยนายอำเภอในเมืองบ้านเกิด สิ่งสุดท้ายที่เธอคาดคิดว่าจะได้เจอก็คือ การเป็นพยานในคดีขุดศพเพื่อพิสูจน์ความผิดในคดีอื่น แต่กลับได้พบว่า ในโลงใบนั้นไม่ได้มีเพียงศพที่ต้องการขุดขึ้นมาพิสูจน์เท่านั้น ยังมีศพหญิงสาวที่หายตัวไปนอนอยู่ในโลงเดียวกันได้
และเพราะเป็นคดีคนหาย เธอจึงทำตามหน้าที่ด้วยการรายงานเรื่องพบตัวหญิงสาวดังกล่าวเข้าไปในฐาน ข้อมูลของเอฟบีไอ ข้อมูลที่เมื่อแอช เคลเลอร์ได้รับ ก็ตัดสินใจเดินทางมาเมืองเล็ก ๆ บ้านเกิดของเกรียร์เพื่อช่วยเธอสืบคดีทันที
นั่นเพราะแอชไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานของเกรียร์ เขาเคยทำงานร่วมกับเธอ เป็นทีมเดียวกัน และเป็นผู้ชายที่แม้เวลาสองปีที่เกรียร์หนีจากเขาไป ก็ยังไม่เคยลืมเลือนเธอไปจากใจได้ เขารู้ว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะสืบสวนคดีฆาตกรรม เขาต้องการอยู่เคียงข้างเธอ ช่วยเหลือเธอ เพื่อลบล้างความผิดที่เขาทำพลาดปล่อยให้เธอถูกฆาตกรอีกคนจับตัวไป
แต่เมื่อได้พบกัน เกรียร์ไม่ดีใจนักหรอกที่อดีตตามหาเธอพบ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับแอชอีกครั้ง แม้ว่า (สปอยล์อย่างรุนแรง) ทั้งคู่จะยังไม่ได้หย่ากัน แต่เธอก็ไม่อาจเป็นภรรยาที่เขาต้องการได้
แม็กซ์ชอบเรื่องนี้พอควรนะคะ คิดว่าน่าสนใจดี แม้ว่าไม่ได้ปิดบังอะไรในเรื่องใครเป็นผู้ร้าย (บอกตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยว่าใครคือผู้ร้าย) เรื่องราวในเล่มนี้คือ วิธีการที่เหล่านักสืบหาข้อมูลของคนร้าย เล่มนี้ทำให้เรานึกถึงหนังสืออีกเล่มที่เราชอบมากเรื่อง Dream Man ของลินดา โฮเวิร์ด แม้จะไม่ได้ดีเท่า แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะทริกเรื่องตัวตนของผู้ร้าย ทำได้ดีค่ะ
นอกจากนี้เรายังชอบความสัมพันธ์ของพระเอกกะนางเอกด้วย โดยเฉพาะการเล่นประเด็นว่า ความรักไม่เพียงพอ นี่เป็นพล็อตอีกอันที่เราชอบมาก เพราะถ้าได้อ่านเล่มนี้แล้ว จะรู้ว่า ประเด็นเรื่องความรักไม่ใช่ปัญหาเลย ทั้งเกรียร์และแอชรักกันมาก แต่ชีวิตมันมีมากกว่าความรัก และนั่นคือสาเหตุที่แยกพวกเขาออกจากกัน การเอาเรื่องความเข้าใจผิดมาเล่น ก็ถือว่าโอเคนะ แม้เราจะไม่ชอบพล็อตนี้นัก แต่ก็ทำได้ไม่น่าเกลียด (ทั้งเกรียร์ และแอช ต่างคิดว่าอีกฝ่ายโทษตนเองว่าเป็นคนผิดจากเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน ตอนที่เกรียร์ลาออกจากเอฟบีไอ และหนีไป)
และที่สำคัญเราชอบชื่อเรื่องที่ให้ความหมายอย่างที่ไม่น่าจะมีใครคิดถึง (สปอยล์) เพราะ ตอนแรกที่เราอ่านเราก็คิดว่า The Matchmaker น่าจะเป็นเรื่องบริษัทจัดหาคู่น่ารัก ๆ แต่ไม่ใช่เลย มันเป็นฉายาของคนร้ายที่คิดว่าตัวเองเป็นพ่อสื่อรักให้กับคนตาย โดยหาเจ้าสาวให้พวกเขา ฆ่าให้ตายแล้วเอามาใส่โลงคู่กับคนตายที่ตัวเองจับคู่ให้พวกเธอ
เรื่องนี้มาตกม้าตายตอนจบนิดเดียวค่ะ ที่เอาแนวโง่เกินกว่าจะมีชีวิตอยู่มาเล่นอีกแล้ว แม้จะไม่ได้เขียนให้ดูโง่มาก แต่เราก็ยังอึดอัดมากที่เกรียร์ซึ่งดูเหมือนจะฉลาดมาตลอดเรื่อง กับทำอะไรงี่เง่าพรรณนั้น
คะแนนเล่มไม่ถึงระดับสอบผ่าน (ซึ่งสำหรับแม็กซ์จะต้องได้อย่างน้อย 70) เล่มนี้เลยอยู่ที่ 67 ค่ะ
No comments:
Post a Comment