ช่่วงนี้อารมณ์วิ่งมาทางแนวโรแมนติคสืบสวนค่ะ แต่ปัญหานึงของหนังสือแนวนี้ก็คือ มันไม่มีพล็อตมากนักที่คุณจะเอามาเล่นได้ เรื่องส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องราวของนางเอกที่ตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง ถูกตามเอาชีวิตจากคนร้าย และพระเอกของเราก็มีหน้าที่เข้ามาปกป้องเธอทุกวิถีทาง ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน
พล็อตของเรื่องแนวนี้มันก็มีแค่นี้ล่ะ ดังนั้นถ้าหวังจะหาแนวเรื่องใหม่ ๆ กับการอ่านเรื่องแนวนี้มันก็ยากนะคะ สิ่งเดียวที่ทำให้นักเขียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันก็คือ ตัวละคร และการดำเนินเรื่อง
แชนน่อน เค. บุทเชอร์เป็นนักเขียนใหม่ หนังสือชุดเดลต้า ฟอร์ซ (ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่คล้ายคลึงกับหน่วยซีล แต่สังกัดกองทัพบก) เป็นหนังสือชุดแรกของเธอ แรกเริ่มคิดว่าเธอคงจะได้สัญญาเขียนสามเล่มกับสนพ.แกรนด์ เซ็นทรัล (หรือวอร์เนอร์เดิม) แต่คาดว่าคงดังพอควร เพราะตอนนี้รู้ว่าเธอเขียนเรื่องของคนในหน่วยนี้ต่ออีกแล้ว
แม็กซ์กล้าบอกเลยว่า เหตุผลที่ตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ไม่ใช่เพราะหนังสือของเธอดูน่าสนใจ หรือมีใครแนะนำหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะคนแต่งในชีวิตจริงเป็นภรรยาของนักเขียนที่แม็กซ์ชอบมาก ๆ
สามีของเธอคือจิม บุทเชอร์ นักเขียนเรื่องแนวแฟนตาซีที่เก่งมากคนนึง (สำหรับคนที่ชอบดูซีรี่ย์ของอเมริกา อาจรู้จัก หนังซีรี่ย์เรื่อง The Dresden Files ซึ่งนั่นก็เป็นจินตนาการของจิมนั่นเอง แต่ซีรี่ย์ไม่เหมือนกับหนังสือหรอกนะคะ)
มันอาจเป็นเหตุผลที่ไม่ได้เรื่องนะคะ แต่พอแม็กซ์สิ่งที่เธอเขียนในเว็บไซด์เกี่ยวกับแรงบันดาลใจของเธอที่หันมา จับปากกาเขียนหนังสือกะเค้าบ้าง เลยทำให้เรารู้สึกสนใจงานของเธอขึ้นมาทันที
แชนน่อนบอกว่า เธอไม่ได้ฝันจะเป็นนักเขียนมาตั้งแต่เด็ก เธออยากเป็นวิศวกร และเธอก็กลายเป็นวิศวกรอย่างที่หวัง ทำงานในขณะที่สามีของเธอไล่ตามความฝันที่อยากเป็นนักเขียนของเขา เธอเริ่มต้นช่วยเขาในการเขียนหนังสือ ช่วยอ่าน และตรวจทานต้นฉบับ จนวันนึงเธอรู้สึกว่าอยากเขียนเองบ้าง เธอตั้งใจจะเขียนเรื่องแนวแฟนตาซีอย่างที่จิมเขียน แต่แล้วเธอก็ได้อ่านโรแมนซ์ และตกหลุมรักกับหนังสือแนวนี้
แม็กซ์ชอบคนที่ยอมรับว่าตัวเองชอบอ่านโรแมนซ์ค่ะ
No Regret ของแชนน่อน เค. บุทเชอร์
หากคิดว่านี่เป็นหนังสือเล่มแรกที่แชนน่อนเขียน แม็กซ์ให้เธอสอบผ่านค่ะ แม้ว่าตัวหนังสือเล่มนี้เองจะสอบตก
ทุกอย่างในเรื่องนี้เป็นไปตามสูตรสำเร็จของหนังสือแนวโรแมนติคสอบสวน เริ่มตั้งแต่นางเอกที่ตกอยู่ในอันตราย โดยโนเอล แบลนช์ ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยผู้เป็นอัจฉริยะตกเป็นเป้าหมายการตามล่า เพราะความสามารถในการถอดรหัสของเธอเป็นที่ต้องการของผู้ก่อการร้าย พระเอกของเรานามเดวิด วูลฟ์ซึ่งเป็นอดีตนายทหารหน่วยเดลต้า ที่ลาออกจากราชการไปเปิดบริษัทรักษาความปลอดภัย ถูกเรียกตัวกลับมาทำงานเพื่อปกป้องเธออีกครั้ง เพราะศัตรูที่ตามล่าโนเอล ก็คือคนกลุ่มเดียวกับที่ลงมือสังหารภรรยาของเดวิดในอดีต
เดวิดไม่มีทางเลือกนอกจากพาโนเอลหนี และนำเธอไปซ่อนไว้ในบ้านพักที่ห่างไกลผู้คน แต่อันตรายก็ไม่ได้หลีกหนีกันได้ง่าย ๆ ในขณะเดียวกันสองหนุ่มสาวก็เริ่มปิ๊งกันแล้วล่ะสิ แม้โนเอลจะไม่เชื่อในเรื่องการใช้ความรุนแรง และเดวิดก็ไม่ต้องการที่รักใครเพื่อที่จะสูญเสียเธอไปอีก
ทุกอย่างในเล่มนี้เป็นไปตามความคาดหมายของหนังสือพล็อตแนวโรแมนติกสืบสวน พระเอกที่เก่งเหนือเก่ง ปกป้องนางเอกทุกวิถีทาง ไฟความปิ๊งที่สป๊าคซ์แฟ่บ ๆ
ปัญหาของแม็กซ์จึงเป็นการที่ทุกอย่างคาดเดาได้หมด พล็อตเรื่องที่จำเจ แม้กระทั่งตัวละครก็ดูไม่ต่างอะไรจากตัวละครอีกเป็นร้อยที่เราเคยอ่านใน เรื่องแนวเดียวกัน ทั้งโนเอล และเดวิดไม่มีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ไม่มีความน่าจดจำ ไม่ได้ผิดอะไรหรอกนะคะ แต่ไม่น่าสนใจเท่านั้นเอง
อย่างที่บอกค่ะ สำหรับผลงานเล่มแรก เราให้แชนน่อนสอบผ่าน และติดตามอ่านงานเล่มต่อไปของเธอเกือบจะในทันที เพราะเราอยากรู้ว่า เธอจะมีพัฒนาการขึ้นมาอีกไหม
คะแนนที่ 57
No Control ของแชนน่อน เค. บุทเชอร์
สำหรับเล่มที่สองในชุด แม็กซ์ถือว่าแชนน่อนมีพัฒนาการที่เด่นชัดเจนขึ้นมากค่ะ ตัวละครมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง (แม้จะไม่ใช่เอกลักษณ์ที่เราอยากให้มีนัก) และการดำเนินเรื่องก็น่าสนใจตลอดทั้งเรื่อง แต่คราวนี้เราก็มีปัญหาอีกจนได้ กับตัวละครของเธอ โดยเฉพาะนางเอก
เมื่อสิบแปดเดือนก่อน คาเล็บซึ่งปลอมตัวเป็นหนึ่งในขบวนการผู้ก่อการร้าย ต้องยืนอยู่เฉย ๆ ขณะที่พวกนั้นฆ่าตัวประกันทีละคน จนกระทั่งเหลือเพียงลาน่าเป็นคนสุดท้าย เธอเป็นคนเดียวที่รอดตาย แต่ชีวิตก็เหมือนพังทลาย เธอฝันร้าย และความหวาดกลัวที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ทำให้เธอฝันร้ายตลอดมา
สำหรับคาเล็บแล้ว การอยู่เฉยแล้วปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ตายเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจให้อภัยตัวเอง ได้ แม้เขาจะรู้ว่าในเวลานั้นเขาไม่มีทางเลือก เขาไม่อาจทำลายตัวตนที่เขาปลอมมาเพื่อช่วยชีวิตตัวประกันได้ เขาจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการนั้น เพื่อสืบความลับ และสำหรับลาน่า มันยิ่งกว่านั้น เขารู้ว่า ถ้าเป็นช่วงเวลาอื่น ในสถานการณ์ที่ต่างไป ลาน่าจะเป็นผู้หญิงที่เขาไม่ลังเลเลยในการจีบ แต่โชคชะตาของทั้งสองมันถูกกำหนดโดยอำนาจที่เหนือกว่า เขารู้ว่าตัวเองคืออดีตที่ลาน่าอยากลืม เป็นคนสุดท้ายที่เธอคาดหวังว่าจะได้เจออีกครั้ง
แต่คาเล็บก็กลับเข้ามาในชีวิตของลาน่าจนได้ เขาได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาดูแล พร้อมทั้งสืบความจริงที่ลาน่าอาจจะเก็บซ่อนเอาไว้ แน่นอนว่าการกลับมาของเขาไม่ได้รับการตอบรับจากลาน่า เธอไม่ต้องการให้เขาเข้ามาในชีวิต และเธอเชื่อว่าตัวเองมีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว
และแล้วคนร้ายก็กลับมา คราวนี้เขาพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้น ลาน่าเป็นคนเดียวที่รอด และครั้งนี้เธอไม่ควรจะรอด
เรื่องนี้ดีกว่าเล่มแรก ในฐานะของความน่าสนใจของเนื้อเรื่อง แม้ว่าพล็อตก็จะยังแนวเดิม (นางเอกอยู่ในอันตราย พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วย) แต่ตัวละครและการดำเนินเรื่องก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองมากพอจะทำให้น่าสนใจ ได้ ปัญหาก็คือ แม็กซ์ไม่ชอบลาน่า ไม่ชอบขนาดอยากจะจับมาตบสักสามรอบ แล้วกระทืบอีกสองรอบ เราเข้าใจนะคะว่าเธอมีประสบการณ์อันเลวร้าย เธอตกอยู่ในความหวาดกลัวตลอดเวลา แต่ก็ไม่ยอมพูดความจริง ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างเธอตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นไปอีก เหตุผลที่เธอบอกคนอ่านก็ไร้สาระ และงี่เง่า (สปอยล์) ถ้าเธอเงียบ ผู้ก่อการร้ายจะเลิกลาไปเอง ขอร้อง ปัญญาอ่อนรึเปล่า
คาเล็บเป็นพระเอกที่ดี โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าเขาต้องทนกับลาน่า เขายิ่งเป็นพระเอกที่ดีมาก
คะแนนที่ 67
No comments:
Post a Comment