Review: The Chase

The Chase by Erin McCarthy

My rating: 3 of 5 stars



เช่นเดียวกับเล่มสองในชุด (Hard and Fast) เราเตรียมตัวจะไม่ชอบเล่มนี้จริงจังมาก เพราะไม่ค่อยถูกใจพระเอกเท่าไหร ด้วยเหตุผลเดียวกับเล่มสองเลยนะคะ เรารู้สึกว่า เขาเป็นตัวละครที่มาตามแบบ นักแข่งรถที่หล่อ รวย คบหญิงไปเรื่อย ไม่จริงจังกับใครสักคน เราไม่รู้สึกว่า ผู้ชายแบบนี้จะน่าสนใจ หรือน่าค้าหา (ซึ่งแปลว่า ไม่น่าอ่าน)

แต่ที่แตกต่างจากเล่มสองก็คือ เราคิดผิด เพราะเราชอบเล่มนี้มากกว่าที่คิดว่า ตัวเองจะชอบ

เอแวน มอนโรว์ (พี่ชายของพระเอกเล่มแรก Flat-out Sexy) เป็นเสือผู้หญิง และมีพฤติกรรมมั่วไปทั่ว มันชัดเจนสำหรับคนที่อ่านเรื่องในชุดนี้มาตลอด แต่ในเล่มนี้ เราคิดว่า คนแต่งฉลาดมากที่จับคู่เขากับผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาปล่อยให้หลุดมือไป เคนเดล ฮอลบรู๊ค นักแข่งรถหน้าใหม่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เธอเป็นผู้หญิงคนแรกในวงการแข่งรถ คนที่ทำลายกำแพงระหว่างเพศ คนแรกที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามาได้ (บอกตามตรงนะคะ เรานึกถึงดานิกา แพทริคแบบไม่ต้องใช้สมองเลย เธออาจจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่ไม่คิดว่า มีใครโดเด่นเท่าเธอแล้วแหละ)

ที่มากไปกว่านั้น เคนเดลคือ ผู้หญิงจากอดีตของเอแวน หญิงสาวที่ทิ้งเขาไป แต่นั่นคือเรื่องที่ได้จากเขา หากถามเคนเดล คำตอบก็จะเป็นอีกอย่าง เพราะสำหรับเธอ เอแวนทรยศเธอ เขาไม่สนับสนุนความฝันการเป็นนักแข่งรถของเธอ และทำให้เธอคิดว่า ไม่มีทางอื่นนอกจากออกไปจากชีวิตของเขา

พูดง่าย ๆ ก็คือ ทั้งสองเลิกกันเพราะความเข้าใจผิด

ขอบคุณตัวละครรองในเรื่องมาก ๆ ที่แก้ไขความเข้าใจผิดปัญญาอ่อนนี้ตั้งแต่ต้นเรื่อง เพราะหลังจากนั้น สำหรับเอแวนแล้ว เขาได้โอกาสอีกครั้ง นั่นทำให้ในสายตาของเรา คาแร็คเตอร์ของเขาเปลี่ยนแปลงไปทันที

เราคิดว่าคนแต่งฉลาดมาก ๆ ที่จับคู่เขากับคนรักเก่า เพราะเรานึกไม่ออกนะคะว่า ชายหนุ่มที่มีพฤติกรรมแบบที่เขาเป็นในเล่มก่อนหน้า จะจู่ ๆ ตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนได้ แต่การอธิบายว่า เขากลายมาเป็นคนอย่างที่เป็น เพราะอาการอกหักในอดีต และเมื่อเขาได้คนรักคนนั้นคืนมาแล้ว พฤติกรรมเจ้าชู้เสเพลก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้มากกว่า

จุดอ่อนของเรื่องนี้ก็คือ เคนเดล มีหลายฉากมากที่เราเกิดความรู้สึกอยากจะกระโดดเข้าไปในเรื่องแล้วเตะปากเธอสักสองสามรอบ เธอช่างเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อหน่ายยิ่งนัก เธอสรุปทึกทักเอาเองว่า เอแวนไม่สนับสนุนความฝัน และเลิกกับเขาอย่างไม่ใยดี แต่กลับบอกกับทุกคนว่า เขาเป็นฝ่ายทิ้งเธอ (ซึ่งไม่ใช่ความจริง) เธอสรุปทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาไปในทางที่เลวร้ายก่อนที่จะรับฟังความจริง แล้วเหตุผลที่เธอบอกเลิกกับเขาอีก ช่างไร้สาระสิ้นดี (แต่จุดนี้เราโทษคนแต่งมากกว่าพฤติกรรมตัวละครนะคะ เพราะดูเหมือนว่า เอริน แม็คคาร์ธี้จะติดการเขียนพล็อตให้พระนางทะเลาะกันหนึ่งครั้งตอนใกล้จบเรื่อง จนมีเหตุเลิกกัน จากนั้นก็จะหวนมาคืนดีกันอีกครั้ง)

เรื่องนี้ดีกว่าที่คิด อาจจะไม่สนุกเท่ากับเล่มแรก แต่ก็สนุกใช้ได้ค่ะ

คะแนนที่ 63
ป.ล. เรื่องนี้ไม่ถึงกับจบแบบสมบูรณ์นะคะ มีประเด็นทิ้งค้างต่อท้ายให้ไปตามอ่านผลสรุปกันที่เล่มหน้าอีก (ตอนแรกที่อ่านเจอ ก็รู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่า สมเหตุผลดี สมควรกับพฤติกรรมของพระเอกที่เขาทำในเล่มก่อนหน้า)



View all my reviews