Review: Skin Tight

Skin Tight by Ava Gray

My rating: 4 of 5 stars





ถ้าหลายคนยังพอจำกันได้ เมื่อปีก่อนแม็กซ์เกิดอาการบ้าหนังสือเล่มนึงมาก ๆ ขนาดที่ถึงกับขอ ARC จากคนแต่งเลยทีเดียว และหนังสือเล่มนั้น (Skin Game) ก็กลายเป็นหนึ่งในหนังสือที่เราชอบมากที่สุดแห่งปีเลยล่ะ

ดังนั้นเมื่อมาถึงเล่มสอง มันมีความเป็นไปได้อย่างมากที่เราจะเกิดอาการ let down หรือความผิดหวัง เพราะเล่มก่อนหน้าดันสนุกมากเกินพิกัด ทำให้เล่มต่อมา เขียนยังไงก็ทำให้เกิดความสนุกได้ยากขึ้น เพราะเรามัวแต่เอาไปเปรียบเทียบกับเล่มแรก

แต่เมื่อได้อ่านเล่มนี้ แม้จะต้องยอมรับนะคะว่า สู้เล่มแรกไม่ได้ แต่แม็กซ์ไม่เกิดความรู้สึกผิดหวังเลย ส่วนหนึ่งเพราะคนแต่งให้ตัวตนที่ชัดเจนมาก ๆ กับพระเอกและนางเอก ชัดเจนจนเราไม่เกิดความรู้สึกเอาหนังสือสองเล่มมาปะปนกันเลย ทิศทางของเรื่องในเล่มนี้มีความชัดเจน แต่ให้กลิ่นอายที่แตกต่างไปจากเล่มแรกมาก เหตุผลเดียวที่แม็กซ์ชอบเล่มแรกมากกว่า เพราะความรู้สึกส่วนตัวที่เราไม่อาจปฏิเสธพระเอกที่เป็นนักฆ่าได้





Skin tight ของเอวา เกรย์

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่สองในชุด เรื่องราวของกลุ่มคนที่มีพลังความสามารถพิเศษ "เหนือมนุษย์" เพียงแต่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจจะเป็น หรือกระทั่งรู้จักกันด้วยซ้ำ ทั้งหมดได้รับพลังพิเศษเหล่านั้นมาจาก "ความซวย" ส่วนบุคคล

เมื่อหนึ่งปีก่อน มีอา ซาวเตอร์ได้พบกับชายผู้น่าจดจำนามว่า แอดดิสัน ฟอสเตอร์ ครั้งแรกที่เธอเจอกัน เธอกำลังตามหาเพื่อนรักที่หายตัวไป และเขาคือคนที่ก้าวเข้ามาช่วยเธอในการตามหาเพื่อน มีอาคิดว่า ฟอสเตอร์คืออัศวินที่จะช่วยเธอจากการติดตามปองร้ายของชายผู้ที่ต้องการใช้เธอเป็นเครื่องมือในการทำร้ายเพื่อน มีอาหนีไปหาเขา และหวังให้ฟอสเตอร์ช่วย

แต่สิ่งที่เธอได้รับก็คือ ฟอสเตอร์พาตัวเธอไปส่งให้กับคนร้าย และทำให้มีอาเกือบจะไม่รอดในการเผชิญหน้ากัน

เหตุการณ์ทั้งหมดนั่นเกิดขึ้นในเรื่อง Skin Game ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกในชุด และถูกเอ่ยถึงเล็กน้อยในบทนำของเล่มนี้ ดังนั้นถ้าคนอ่านอยากรู้เรื่องทั้งหมด ก็ขอแนะนำให้อ่านเล่มแรกก่อนนะคะ แต่กระนั้นเรากลับไม่รู้สึกว่า จำเป็นจะต้องอ่านเล่มแรกเพื่อทำความเข้าใจเล่มนี้หรอกนะคะ เพราะพล็อตในเล่มนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรชัดเจนกับเล่มแรก นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างมีอา และพระเอกของเธอที่กลับมาเจอกันอีกครั้งในเล่มนี้

หลังจากเหตุการณ์ที่มีอาต้องเสี่ยงตาย เธอก็ได้กลับมาพบกับฟอสเตอร์อีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ใช่แอดดิสัน ฟอสเตอร์อีกต่อไป เขากลายเป็นเป็นโธมัส สตรองค์ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลในบริษัทที่มีอาได้รับว่าจ้างให้เข้าไปสืบหาตัวคนยักยอกเงินของบริษัท

ด้วยอาชีพที่เป็นนักบัญชีผู้ติดตามร่องรอยของเงิน มีอาคือทางเลือกของบริษัทที่พบว่า กำลังเป็นเหยื่อของพนักงานที่ยักยอกทรัพย์ แต่การเข้าไปทำงานในบริษัืทไมคอร์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยลับสุดยอดไม่ใช่เรื่องง่าย มีอาต้องแสร้งทำเป็นพนักงานฝ่ายไอทีหน้าใหม่ และเริ่มต้นสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด

สิ่งที่เธอไม่ได้คาดคิดก็คือ จะได้พบกับฟอสเตอร์อีกครั้ง และแม้คนทั้งโลกจะมองเห็นเขาในฐานะของโธมัส สตรองค์ แต่มีอามองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา และมันคือครั้งแรกในชีวิตที่คนอื่นมองเขา และเห็นเขาจริง ๆ

นั่นเพราะความสามารถ "พิเศษ" ของสตรองค์ก็คือ การสร้างภาพมายา เขาไม่อาจควบคุมความสามารถอันนี้ได้ ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบกายของเขา หลงไปกับภาพมายาของแต่ละคน ดังนั้นสตรองค์สามารถเป็นใครก็ได้ ถ้ามีเหตุผลน่าเชื่อพอ กล่าวคือ ถ้าคนคนนั้นคิดว่า ชายที่อยู่ตรงหน้าคือ โธมัส สตรองค์ คนเหล่านั้นก็จะมองเห็นโธมัส สตรองค์ โดยไม่รู้เลยว่า คนตรงหน้าคือผู้ชายอีกคนที่ปลอมตัวมา

ความสามารถนี้ไม่อาจควบคุมได้ ดังนั้นตลอดชีวิตของชายที่สวมบทบาทเป็นโธมัส สตรองค์ ไม่เคยมีใครเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย ดังนั้นการที่มีอาเห็น มันจึงเป็นบางสิ่งที่พิเศษสุด

แต่ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นกับมีอา ก็ไม่อาจหยุดเขาจากความพยายามแสวงหาความยุติธรรมได้ นั่นเพราะเขารู้ว่า แหล่งที่มาของความสามารถของตัวเอง ไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่เป็นแผนการชั่วร้ายของคนกลุ่มนึง

การลักลอบทดลองในเมืองเล็ก ๆ เมื่อหลายปีก่อนเริ่มต้นด้วยการแฝงกายมาในรูปของวัคซีนฟรีให้กับกลุ่มเด็กด้อยโอกาส เพียงแต่สิ่งที่ถูกฉีดให้กับเด็กเหล่านั้นไม่ใช่วัคซีน มันเป็นอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงพวกเขาจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นสุดยอดมนุษย์

แต่ก็เหมือนกับการทดลองส่วนใหญ่ ที่ย่อมต้องมีความผิดพลาด ความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นในเด็กแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน บางคนมีพรสวรรค์ที่น่ากลัว บางคนมีพรสวรรค์ที่ไม่อาจทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และขบวนการที่ทำการทดลองก็ไม่ได้หายไปไหน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนกลุ่มนี้ไล่ล่าและตามจับเหล่าเด็ก ๆ ที่บัดนี้โตขึ้นมาแล้ว เพื่อนำพวกเขากลับมาทดลองอีกครั้ง เด็กบางคนตกอยู่ในการคุมขังมาตลอดชีวิต ไ่ม่มีโอกาสได้รู้ว่า ชีวิตปกติเป็นอย่างไร

สตรองค์ หรือชื่อจริงว่า เซอร์เรน ฟรอสต์ อาจจะเรียกว่า เป็นคนที่โชคดี เขาเล็ดลอดการตามจับกลับไปได้ แต่เพราะพรสวรรค์ที่ได้รับการเติมแต่ง ทำให้เขาไม่อาจมีชีวิตปกติธรรมดาได้ เขาเคยมีภรรยาที่เข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนอื่น (เพราะเขาสร้างภาพมายาได้ ภรรยาของเขาจึงมองเห็นเขาเป็นชายคนที่เธอฝันใฝ่ถึง) และเสียลูกสาวไปเพราะมัน นั่นผลักดันทำให้เขาใช้ชีวิตอยู่เพื่อการแก้แค้น และการแก้แค้นของเขาก็เกือบจะมาสุดทางแล้ว

เบาะแสที่เขาติดตามมาตลอดพาเขามายังบริษัทไมคอร์ แต่การเจาะเข้าไปภายในไม่ใช่เรื่องง่าย แม้เขาจะเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่เขาก็มองเห็นโอกาสของมีอา ที่แฝงกายเข้ามาเป็นพนักงานฝ่ายไอทีว่าอาจจะมีโอกาสมากกว่า ปัญหาก็คือ มันทำให้มีอากลายเป็นเป้าหมายของคนร้าย และเซอร์เรนจะต้องเลือกว่า เขาจะมุ่งมั่นไปกับการแก้แค้นเพราะการกระทำในอดีต หรือช่วยเหลือมีอาซึ่งกำลังจะกลายเป็นอนาคตของเขา

หนังสือเรื่องนี้เป็นอีกเล่มนึงที่เราไม่ผิดหวังนะคะ แต่ในขณะเดียวกัน หลังจากอ่านเรื่อง Fade to Midnight ที่มีประเด็นคล้ายคลึงกัน (สปอยล์) เรื่องการเอามนุษย์มาเป็นหนูทดลองทางวิทยาศาสตร์ ก็ทำให้แม็กซ์รู้สึกเบื่อไปไม่น้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของหนังสือ เราดันเลือกหยิบสองเล่มมาอ่านติดกันเอง

จุดแข็งที่เรารู้สึกว่าน่าจะกลายเป็นจุดเด่นในงานเขียนของเอวา เกรย์ไปแล้ว ก็คือพระเอกที่มีคาแร็คเตอร์ดิบ ๆ ทั้งเรเยส (พระเอกเล่มแรก) และเซอร์เรนไม่เหมือนกันนะคะ แต่ให้อารมณ์ในเวลาอ่านใกล้เคียงกันมาก นั่นคือผู้ชายที่ไม่แคร์อะไรมากนัก แต่เมื่อเขาได้พบกับผู้หญิงที่มอบหัวใจให้ พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่เพื่อพวกเธอ และไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าเธออีกต่อไป

มันเป็นจินตนาการของผู้หญิงนะคะที่อยากได้พบกับผู้ชายแบบนั้น (แม้ว่าในชีวิตจริงจะเป็นอีกเรื่องนึง) และแม็กซ์ก็รักความทุ่มเทที่เซอร์เรนมีให้กับมีอา เขาอาจจะปฏิเสธความรู้สึก หรือการบอกรัก แต่การกระทำมันชัดเจนยิ่งนัก

ในเล่มนี้โฟกัสของเรื่องอยู่ที่ตัวเซอร์เรนและความมุ่งมั่นในการแก้แค้นของเขา และมันยิ่งทำให้น่าอ่านมากขึ้น เมื่อ (สปอยล์) เมื่อต้องเลือกระหว่างการแก้แค้นที่ใกล้สำเร็จ และมีอา เขาเลือกเธออย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก

แม็กซ์พูดถึงพระเอกเยอะอีกเช่นเคยค่ะ แต่นางเอกในเล่มนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเลย แม็กซ์ชอบไครา นางเอกในเล่มแรกมากกว่า แต่อาจเพราะเราชอบความห้าว และเถื่อนของเธอ แต่มีอาในเล่มนี้ก็น่าสนใจในตัวเอง เธอเป็นลูกครึ่งอิหร่านอเมริกัน ทำให้หลายครั้งเธอถูกกีกกันทางเชื้อชาติ ทำให้มีอากลายเป็นนักวางแผนไปเสียทุกอย่างในชีวิต มีอาอยู่อย่างมีแบบแผน ทำให้หลายครั้งเธอรู้สึกอิจฉาชีวิตที่ไครา เพื่อนรักใช้ แต่กระนั้น (สปอยล์) เธอก็ยังมีชีวิตอีกด้าน ทำให้เรารู้สึกเธอ เหมาะสมกับเซอร์เรนมาก

โดยรวมเรื่องนี้เป็นเล่มแรกที่ไม่น่าผิดหวัง และเรื่องราวที่ทิ้งท้ายเอาไว้ ก็ยิ่งทำให้หนังสือชุดนี้น่าติดตามอ่านต่อยิ่งนัก คะแนนที่ 77




View all my reviews