วันนี้ขอใช้คำเท่ห์หน่อยแล้วกัน แต่ด้วยความที่แม็กซ์ไม่มีนิสัยเอาความรู้ของคนอื่นมาแอบอ้างเป็นของตัวเอง ก็จะขอสารภาพเสียตั้งแต่ต้นแล้วกันว่า ข้อมูลที่ได้มานั้นล้วนแต่เอามาจากคนอื่นทั้งนั้นแหละค่ะ ไม่มีปัญญารู้มาด้วยตัวเองหรอกค่ะ
คำว่า Exposé เป็นคำที่ใช้สำหรับการ รายงานข่าวในเชิงเจาะลึก และที่เอาคำนี้มาใช้กับดาร่า จอยก็เพราะแม็กซ์คิดว่าคงมีหลายคนอยากรู้ความคืบหน้าข่าวคราวของเธออยู่ไม่ น้อย
สำหรับคนที่ไม่รู้จักดาร่า จอย แม็กซ์ก็ขอบอกว่าคุณเชยมากนะคะ เพราะเธอคนนี้แหละคือคนที่บุกเบิกนิยายแนวพารานอมอลที่มีฉากเซ็กส์ฮ็อต ๆ ถึงอกถึงใจคนอ่าน นักเขียนหลายคนก็เดินตามสูตรของเธอไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็นเชอริลีน เคนย่อน, คริสตีน ฟีแฮน, และอีกหลายคน (ที่บอกว่าเดินตามสูตร แม็กซ์ไม่ได้หมายความว่าลอกหรอกนะ เพราะพล็อตมันไม่เหมือนกันหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าพารา + เซ็กส์เท่านั้นเอง)
หลายคนอาจรู้จักดาร่า จอยจากหนังสือแปลภาษาไทยของฟองน้ำที่บิดเบือนชื่อของเธอจนกลายเป็นซานดร้า เจมส์
เล่าความหลังกันก่อน
หนังสือเล่มแรกของจอยคือเรื่อง Knight of a trillion stars ออกขายในปี 1995 กับสนพ.ดอร์เชสเตอร์ ซึ่งถือเป็นสนพ.ขนาดอาจจะเล็กที่สุดในแนวโรแมนซ์ สนพ.นี้มักจะแนะนำให้คนอ่านได้รู้จักนักเขียนหน้าใหม่หลายคน ก่อนที่จะโดนตีจาก เพราะนักเขียนเหล่านั้นล้วนแต่อยากจะไปหาสนพ.ที่ใหญ่กว่าอยู่กัน แต่ด้วยความที่ดอร์เชสเตอร์กล้าเสี่ยงในการนำเสนอ นิยายหลายเรื่องที่สนพ.ใหญ่ไม่กล้าพิมพ์ พวกเขาก็พิมพ์ ประสบความสำเร็จบาง ล้มเหลวบ้างแล้วแต่ แต่พวกเขาก็เหมือนถูกล็อตเตอรี่เลยแหละเมื่อพิมพ์งานของจอยออกมา เพราะมันดัง ดัง และโคตรดัง
จากนั้นก็มีหนังสือของจอยตามมาอีกหลายเล่ม ที่ฮิตติดตลาดก็คือชุด Matrix of Destiny ที่เล่าเรื่องราวของโลกอันไกลโพ้น ที่มีประตูสามารถเปิดข้ามมิติกันได้ หนังสือชุดนี้ดูท่าทางแล้วคงจะยาวหลายเล่มกว่าจะปิดฉากจบชุด (คิดดูแล้วกันว่าสมัยนั้น ยังไม่มีนักเขียนโรแมนซ์ที่นิยมเขียนชุดในลักษณ์โอเพ่นเอนด์อย่างนี้เลย จอยเป็นคนแรก ๆ ที่ทำ)
เพื่อระลึกถึงความหลังสำหรับหนังสือที่แม็กซ์ชอบมากหลายเล่มก็ของลิสต์รายชื่อหนังสือทั้งหมดของจอยให้ดูแล้วกัน
Knight of a trillion stars
High Enegy
Rejay
Tonight or Never
Mine to take
High Intensity
Ritual of Proof
ปัญหาทางกฎหมาย
สำหรับ ROP นั้นเป็นเล่มที่จอยเขียนให้กับสนพ.เอว่อน ซึ่งเป็นสนพ.ใหม่ที่เธอย้ายไป
ปัญหาก็คือ จอยยังติดสัญญาอยู่กับดอร์เชสเตอร์อีกถึงสามเล่มน่ะสิ สิ่งที่เธอทำไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะมีนักเขียนหลายคนทำเช่นนั้น นั่นคือเซ็นต์สัญญาเขียนให้กับหลายสนพ. หรือแม้กระทั่งย้ายจากสนพ.ซึ่งเป็นที่เกิด ที่สร้างชื่อให้ ก็ย้ายกัน ของอย่างนี้มีสิทธิทำกันได้
แต่คนอื่น ๆ เขาส่งมอบหนังสือตามสัญญาที่เซ็นต์กับสนพ.ดั้งเดิมของตัวเองหมดแล้วก่อนจะไป น่ะสิ (ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือคริสตีน ฟีแฮนที่เซ็นต์สัญญากับเบิร์คเลย์ทั้งที่ยังติดสัญญากับดอร์เชสเตอร์อยู่ ซึ่งเธอก็ส่งมอบนิยายสองเรื่องตามสัญญาที่เซ็นต์กันให้ดอร์เชสเตอร์ จากนั้นค่อยเริ่มเขียนเรื่องใหม่ให้เบิร์คเลย์) ในขณะที่จอยกลับไม่ทำเช่นนั้น
เธอให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะเขียนนิยายแนวพารานอมอลโรแมนซ์ให้ กับดอร์เชสเตอร์สามเล่ม แต่เมื่อเธอเขียนเรื่อง ROP เธอบอกกับดอร์เชสเตอร์ว่าเล่มนี้เป็นแนววิทยาศาสตร์ไซ-ไฟ ดังนั้นเธอจึงมีสิทธิขายมันให้กับเอว่อนได้
ดอร์เชสเตอร์ยินยอม แต่เมื่อ ROP วางขาย ดอร์เชสเตอร์ก็ประจักษ์ว่ามันก็คือนิยายโรแมนซ์อีกเล่มนึงนั่นแหละ (ซึ่งแม็กซ์ก็เห็นด้วยนะคะ) ดังนั้นสนพ.ก็จึงยื่นฟ้องต่อศาลเรียกค่าเสียหาย รวมทั้งขอให้อายัดเงินที่ได้จากการจำหน่ายหนังสือเล่มนี้ไว้ก่อนอีกด้วย
ปัจจุบันคดีนี้ก็ยังไม่จบ
ทางด้านจอยเคยออกมาเขียนจม.ถึงแฟนในเว็บไซด์ของเธออธิบาย "ด้านของเธอ" บ้าง เธอให้เหตุผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่เซ็นต์กับดอร์เชสเตอร์เพราะว่า เธอคิดว่าดอร์เชสเตอร์กำลังโกงเงินค่าขายหนังสือของเธอ โดยปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับยอดจำหน่ายหนังสือ ดังนั้นเธอคิดว่าในเมื่อดอร์เชสเตอร์ไม่ทำตามสัญญาที่เซ็นต์กัน (ด้วยการไม่จ่ายเงินให้เธออย่างถูกต้อง) เธอก็ไม่มีหน้าที่ที่จะต้องทำตามสัญญาในการส่งมอบหนังสืออีกสามเล่มให้ดอร์ เชสเตอร์เช่นกัน
ฟังดูมีเหตุผลดีนะคะ แต่จากความรู้เพียงหางอึ่งของแม็กซ์ที่เคยเรียนกม.ในเมกามาบ้าง (ไม่ถึงกับจบได้ดีกรีมาติดฝาบ้าน แต่ก็ท็อปได้ที่หนึ่งในวิชากม.ธุรกิจ) แต่กม.สัญญานั้น ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายไม่ทำตามสัญญาจะหมายความว่าเรามีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาได้ แถมในกรณีนี้ จอยก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนในการพิสูจน์ว่าดอร์เชสเตอร์โกงเธอ ในขณะที่ทางดอร์เชสเตอร์มีหลักฐานชัดเจนกว่าว่าเธอไม่ทำตามสัญญา
แม้ว่าทางดอร์เชสเตอร์จะมีประวัติในการถูกกล่าวหาโกงเงินนักเขียนมาหลายคนแล้ว แต่นั่นก็ไม่ใช่หลักฐานที่ถูกรับฟังในศาล
ทางออกของนักเขียนหลายคนที่รู้สึกว่าตัวเองโดนสนพ.โกงเงิน ก็คือการเขียนเรื่องส่งมอบให้สนพ.ไปให้ครบ ย้านสนพ. จากนั้นฟ้องสนพ.เดิม นักเขียนหลายคนทำแบบนั้น
แต่จอยเลือกอีกทาง และมันคือความผิดพลาด คำฟ้องของดอร์เชสเตอร์สั่งห้ามจอยในการตีพิมพ์นิยายจนกว่าเรื่องทั้งหมดจะ ตกลงกัน แต่จอยก็ยังมีทางออก เพราะคำสั่งศาลไม่ได้หมายความรวมถึงเรื่องสั้น เธอยังมีสิทธิเขียนเรื่องสั้นและนำออกขายได้
นั่นเป็นข่าวดีของบรรดาแฟน ๆ รวมทั้งแม็กซ์ในเวลานั้น
แต่ไม่มีสนพ.ไหนที่กล้าซื้องานของจอยอีกแล้ว ด้วยปัญหาทางกม.ที่มีอยู่กับดอร์เชสเตอร์ (เพราะกระทั่งเอว่อนเองก็ตกเป็นจำเลยที่สองในฐานะของสนพ.ที่ซื้องานของจอยไป ) ทำให้ทางออกของจอยก็คือการตีพิมพ์เอง และขายเอง
จุดเริ่มต้นของจุดจบ
หนังสือเล่มแรกของจอยที่ตีพิมพ์เองขายเองคือเรื่อง That Familiar Touch ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุด MOD แม็กซ์ไม่ขอพูดถึงเรื่องคุณภาพของหนังสือแล้วกันนะ บอกเพียงแต่ว่า การมีบรรณาธิการในตรวจหนังสือหรือการไม่มี มันมีความแตกต่างกันเยอะมาก หนังสือเล่มนี้แม็กซ์ได้รับความกรุณาจากคุณเอเพิ่ลในการซื้อให้ ซึ่งแม็กซ์ซาบซึ้ง และขอขอบคุณอีกครั้ง
หนังสือเล่มนี้มีความล่าช้าในการจัดส่งพอสมควร ประมาณห้าถึงหกเดือนนับจากวันที่จอยบอกว่าจะออก
ทำไมถึงต้องสนใจวันออกของหนังสือด้วยล่ะ
นั่นก็เพราะว่าจอยเก็บเงินคนที่จะซื้อหนังสือก่อนน่ะสิ ทั้งนี้เธอให้เหตุผลว่า เธอต้องการทราบจำนวนของคนซื้อเพื่อที่จะสั่งพิมพ์หนังสือได้ถูกต้อง
หลังจาก TFT จอยก็โฆษณาถึงหนังสือเล่มถัดไปของเธอ WildCat Arrows ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีไม่แพ้กัน แต่เล่มนี้แม็กซ์โชคดีหน่อยตรงที่ผิดหวังไปกับ TFT มาก จนไม่อยากจะอ่านแล้ว ก็เลยบอกร้านหนังสือขาประจำไว้ว่า ช่วยสั่งให้หน่อยแล้วกัน และร้านหนังสือก็แสนดีนะคะที่สั่งให้ แถมออกเงินให้ก่อน (ไม่ใช่ร้านในเมืองไทย ดังนั้นไม่ต้องคาดเดากันว่าเป็นร้านอะไร)
และแม็กซ์ได้หนังสือเล่มนี้ในเดือนพฤษภาคม 2006 เกือบหนึ่งปีหลังจากเปิดให้จอง (และจ่ายเงินกัน)
และคุณรู้อะไรไหมคะ แม็กซ์ถือเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้หนังสือเล่มนี้
เพราะมีคนอีกเป็นร้อย ๆ ที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้รับของ และเมื่อติดตามทวงถามทางอีเมลล์ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร บางครั้งก็เงียบหายไป บางครั้งก็ได้รับคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย
คนที่จัดการเรื่องการซื้อขายหนังสือไม่ใช่จอย แต่เป็นผู้ชายที่ชื่อว่าคอรี่ ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นเว็บมาสเตอร์ของจอย แต่หลายคน (อันนี้ลือลูกเดียวค่ะ ยืนยันความจริงไม่ได้) บอกว่าคอรี่เป็นผู้ชายในชีวิตของจอย
จนกระทั่งปัจจุบันปี 2008 ก็ยังมีอีกหลายคนมากมายที่ไม่ได้หนังสือเล่มนี้ หลายคนหมดหวังไปหมดแล้วล่ะค่ะ
และอีกหลายคนที่ได้หนังสือ พวกเขาได้ผ่านทางการขู่ที่ว่า "ถ้าไม่ส่งหนังสือให้ พวกเขาจะรวมตัวกันแจ้งอัยการประจำรัฐที่จอยอาศัยอยู่ เพราะมันเป็นความผิดทางอาญาที่รับเงินไปแล้ว แต่ไม่ส่งมอบของ"
คนที่ใช้มาตรการขู่ก็จะได้หนังสือ
หลายคนคาดการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจอย ไม่นับถึงฝีมือในการเขียนเรื่องที่ถดถอยลง การเงียบหายไปของเธอเป็นเรื่องที่น่าฉงน บางคนถึงกับบอกว่าเธอตายไปแล้ว แต่ถูกสวมรอยอ้างโดยคอรี่เพื่อหาประโยชน์จากแฟนหนังสือของเธอ บางคนบอกว่า เธอรับมือกับความโด่งดังไม่ไหว และมีปัญหามากเกินไปจนกู่ไม่กลับ
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร นี่คือตัวอย่างของความสูญเสียอย่างรุนแรงของวงการโรแมนซ์
ดาร่า จอยเป็นนักเขียนที่บุกเบิกโรแมนซ์ เป็นคนที่อาจจะเรียกได้ว่า นำพารานอมอลมาสู่นักอ่าน Tread เป็นตัวละครที่ทุกวันนี้แม็กซ์ก็ยังคิดถึงและอยากอ่าน แต่ถูกจากเรื่องที่เกิด มันคงเป็นหนทางที่ยาวนานมากกว่าจอยจะกลับมา ทั้งปัญหาทางกม. และที่สำคัญการเสื่อมศรัทธาของแฟนหนังสือที่มีต่อการ "โกง" เงินค่าหนังสือ
มันเป็นการฆ่าตัวตายทางอาชีพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
No comments:
Post a Comment