Sunday, February 8, 2009

If you decieve // Kresley Cole

แล้วแม็กซ์ก็อ่านเล่มสามในชุดพี่น้องตระกูลแม็คคาร์ริคจบ ถ้ากับผลลัพธ์ที่ทำให้ตัวแม็กซ์เองแปลกใจนิดหน่อย

แม็กซ์ชอบเรื่องนี้นะ

แม็กซ์ว่าเป็นงานในแนวย้อนยุคของเครสลีย์ โคลที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับเรื่องแนวพารานอมอลของเธอเลยทีเดียว อันที่จริงแม็กซ์ชอบเรื่องนี้มากกว่าA Hunger like no other เสียอีก

และที่ต้องเอาเรื่องนี้ไปเปรียบเทียบกับ AHLNO ก็เพราะว่าพระเอกในเรื่องบุคลิกคล้ายกันพอควร อีธาน แม็คคาร์ริคไม่ใช่คนดี ไม่ว่าในความหมายไหน คำพูดของเขาที่ให้คำจำกัดความตัวเขาเองได้ดีที่สุดก็คงเป็นฉากที่เขาเล่าให้ นางเอกฟังว่า "ผมไม่เคยนอนฝันร้าย เพราะถ้ามีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเขา เขาจะเอาคืนคนที่ทำเช่นนั้นกับ และเขาก็จะลืมเหตุการณ์นั้นไป"

นี่แหละพระเอกในใจของแม็กซ์ เพราะบางครั้งสุภาพบุรุษมันก็น่าเบื่อหน่าย จริงไหม

อีธานเป็นพี่ชายคนโต และในระหว่างเล่มหนึ่งและสอง เขาเป็นคนที่คอยขัดขวางความรักระหว่างน้องชายกับหญิงที่พวกนั้นรัก ความลึกลับของเขาเกี่ยวกับแผลเป็นที่หน้า กิตติศัพท์ของเขาในเรื่องความเหี้ยมโหดถูกเล่าขานเพื่อเป็นน้ำจิ้มให้คน อ่านอยากอ่านเรื่องของเขา

สำหรับแม็กซ์แล้ว อีธานเป็นเพียงหนึ่งในพระเอกที่มีอดีตที่โหดร้ายที่เห็นดาษดื่นในโลกโรแมนซ์ แม็กซ์ไม่ได้สนใจอะไรในตัวเขาเป็นพิเศษ แต่ที่หยิบเรื่องนี้มาอ่านก็เพราะอ่านไปแล้วสองเล่มนี่ เล่มสุดท้ายก็อ่านให้มันจบกันไป

แล้วแม็กซ์ก็ไม่ชอบพระเอกโหดด้วย แต่เมื่อเริ่มอ่านแม็กซ์กลับชอบความจริงใจของอีธานในการเป็นคนเลว ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว แมดเดลีนนางเอกก็ยังคิดเช่นนั้น เขาเป็นคนประเภทที่อยากได้อะไรต้องได้ อย่างเช่นที่เมื่อเขาเห็นแมดเดลีนครั้งแรกและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา ครอบครอง เขาเป็นคนที่สามารถใช้เล่ห์กลทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา ไม่ว่าแผนการนั้นจะเลวร้ายเช่นไร

แต่สิ่งที่ทำให้แม็กซ์คิดว่าเขาไม่เหมือนพระเอกสไตล์โหดที่เป็นที่นิยมใน หมู่แฟนโรแมนซ์เมืองไทยก็คือ อีธานไม่เคยจงใจทำให้นางเอกเจ็บปวด เขาอาจวางแผนหลอกนางเอกในเรื่องแต่งงาน แต่เมื่อเอาเข้าจริงเขาก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งนี่เป็นจุดตัดที่สำคัญมากสำหรับแม็กซ์

และคนที่ทำให้ความเลวของอีธานเข้าจุดสมดุลก็คือแมดเดลีน เพราะเธอไม่เหมือนนางเอกเจ้าน้ำตาที่อาศัยน้ำตาเพื่อทำให้พระเอกเห็นแล้วใจ อ่อน ประเภทเห็นแล้วก็ต้องหยุดพฤติกรรมโหดของเขาเสีย

ไม่หรอก แมดเดลีนเหนือกว่านั้นเยอะ

เธอแทบไม่เคยร้องไห้ หรือถ้าร้องก็ไม่ใช่ต่อหน้าอีธาน เธอเป็นนักเอาตัวรอด จากเด็กหญิงวัยสิบเอ็ดปีที่สูญเสียทุกอย่าง จากแมนชั่นหรูในอังกฤษ เธอต้องอพยพมาอยู่ในสลัมในฝรั่งเศส แมดดี้เอาตัวรอดในโลกที่โหดร้ายนี้ได้ เรื่องเดียวที่อาจะไม่น่าเชื่อสำหรับเธอก็คือ เธอยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ แต่นั่นก็คงเป็นประเด็นที่ถูกใจคอแม่ยกหลายคน

เมื่อถูกอีธานดูถูกถึงความยากจน เธอก็ล้อเลียนแผลเป็นบนใบหน้าของเขา เมื่อเขาแกล้งทำเย็นชาเข้าใส่ เธอก็อ่านแผนการของเขาออกเกือบในทันที และเมื่อเธอตัดสินใจได้ว่า ต้องการความรักจากเขา แมดดี้ก็ไม่เคยนั่งคิดราวกับคนโรคจิตประเภทย้ำคิดย้ำทำ "เขารักฉัน เขาไม่รักฉัน แล้วก็ร้องไห้ พระเอกปลอบ ขึ้นเตียงจากนั้นก็เขารักฉัน เขาไม่รักฉัน แล้วก็ร้องไห้ พระเอกปลอบ ขึ้นเตียง จากนั้น.... คงจะพอนึกออกกันนะ"

เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความเย็น (ชาของพระเอก) และความร้อน (จากไฟปรารถนาที่อยากลากนางเอกขึ้นเตียง) มันสลับกันมากเกินไป แมดดี้ก็ยืนคำขาดให้เขาเลือก เธอไม่ยอมเป็นเหยื่อ และนี่ล่ะคือเหตุผลว่าทำไมแม็กซ์ถึงชอบเรื่องนี้

อีกเหตุผลหนึ่งก็คงเพราะเล่มนี้เป็นเล่มเดียวในชุดที่คำสาปไร้สาระในเรื่อง ไม่ค่อยมีส่วนในพล็อตเท่าไหร (ซึ่งเป็นข้อเสียหลักของเล่มสอง ซึ่งเป็นอีกเล่มที่แม็กซ์ก็ชอบไม่น้อย)

แนะนำเรื่องนี้นะคะ สำหรับคนชอบพระเอกโหดก็คงไม่ผิดหวัง แต่แม็กซ์อยากแนะนำให้คนที่ไม่ชอบพระเอกสไตล์นี้ เพราะหาไม่ได้ง่ายนักหรอกที่พระเอกโหดจะเจอนางเอกที่ฉลาดทันกัน หรือเข้มแข็งพอที่จะเอาชนะในความเลวของเขาได้

คะแนนที่ 83 (เล่มแรก If you dare = 47 เล่มสอง If you desire = 73)

No comments: