Sunday, February 8, 2009

If you desire // Kresley Cole

แล้วแม็กซ์ก็กลับไปอ่านต่อเล่มสองของหนังสือชุดสามเล่มแห่งตระกูลแม็คคาร์ริ ค เรื่องราวของพี่น้องสามหนุ่มที่โง่ที่สุดในยุควิคตอเรียของเครสลีย์ โคล

ทำไมถึงโง่

ก็เพราะว่าพื้นฐานของเรื่องชุดนี้ตั้งอยู่บนความเชื่อของพระเอกในเรื่องของ คำทำนายประจำตระกูลที่ทำนายว่า ตระกูลแม็คคาร์ริคจะสิ้นสุดลงที่พวกเขา พวกเขาจะไม่ได้แต่งงาน หรือมีลูก ไม่มีคำอธิบาย แต่ทั้งสามก็เชื่อจนหมดใจ และใช้มันเป็นข้ออ้างในการผลักไสผู้หญิงที่รักเขา

คงเพราะแม็กซ์ไม่เชื่อคำอธิบายอันนี้ ก็เลยทำให้รู้สึกว่าพล็อตมันงี่เง่าไปหน่อยนะ

สำหรับเล่มสอง ถ้าไม่นับปัญหาคาใจเรื่องคำทำนายประจำตระกูลแล้ว ก็ถือว่าเป็นหนังสือที่สนุกมาก มีครบทุกรส ในเล่มนี้เป็นเรื่องราวของฮิวจ์ น้องชายคนกลางที่แอบรักเจนเด็กสาวข้างบ้านมาตั้งแต่เด็ก แต่เพราะคำทำนายว่าผู้หญิงที่คนในตระกูลแม็คคาร์ริครักจะต้องตาย ทำให้เขาสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองตลอดสิบปีที่ผ่านมา

แม็กซ์ชอบฮิวจ์ที่มั่นคงในความรัก แต่ก็ตำหนิในความเชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้กระทั่งในตอนท้ายเรื่องเมื่อเขาตามมาง้องอนนางเอก ก็ทำเพราะเขาเชื่อแล้วว่าคำสาปไม่เป็นจริง ไม่ใช่เพราะเขาเอาชนะความเชื่อบ้านั้นได้

พ่อของเจนซึ่งเป็นหัวหน้าองค์การชนิดหนึ่งที่ชื่อ เน็ตเวิร์ค (แม็กซ์ไม่แน่ใจว่าคำนี้ได้ถูกบัญญัติให้มีตั้งแต่สมัยวิคตอเรียนแล้วหรือ ไม่) ทำพลาดด้วยการส่งมือสังหารที่ดีที่สุดของตัวเองไปสู่กับดักเพื่อฆ่าทิ้ง เมื่อรู้ว่าไม่อาจควบคุมเขาได้อีก แต่มือสังหารคนนั้นรอด พร้อมกับประกาศว่าจะตามจองเวรด้วยการฆ่าคนที่เขารักมากที่สุด นั่นก็คือเจนนั่นเอง ดังนั้นเขาจึงเรียกมือสังหารอีกคนของตัวเอง คนที่เขาคิดว่ามีโอกาสในการคุ้มครองเจนได้ดีที่สุด ซึ่งก็คือพระเอกของเรา เขาจัดการจนทั้งคู่แต่งงานกัน แล้วส่งให้ทั้งคู่หนีไปสก๊อตแลนด์ ขณะที่ทีมงานของเขาพยายามล่ามือสังหารรายนี้

เรื่องไม่มีอะไรมากหรอก เพราะคนอ่านก็รู้ตั้งแต่เปิดเรื่องแล้วว่าพระเอกรักนางเอก นางเอกก็รักพระเอก แต่ลงเอยไม่ได้สักทีเพราะความเชื่อของพระเอก แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้มีสีสันก็คงเป็นนางเอก ที่เป็นคนรู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ดังนั้นเมื่อเธอรู้ว่าต้องการฮิวจ์ เจนก็ทำทุกอย่างที่คิดออกเพื่อเอาชนะใจของเขา ยั่วทั้งโมโหและอย่างอื่น

และเพราะเจนนี่แหละที่ทำให้แม็กซ์ปราณีกับหนังสือเรื่องนี้นะคะ ไม่อย่างนั้นไอ้ความเชื่อประหลาดไร้เหตุผลที่เป็นพื้นฐานของเรื่อง คงทำลายเรื่องนี้ไปหมดแล้ว

คะแนนที่ 73 (น้อยกว่า No rest for the wicked ที่ได้ 87 และเท่ากับ A Hunger like no other ค่ะ)

No comments: