ก่อนจะรีวิวคงต้องเริ่มต้นด้วยคำเตือน (ที่หลายคนอ่านแล้ว อาจจะรีบวิ่งไปที่ร้านหนังสือแล้วซื้อมาอ่านบ้าง) ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับทุกคนหรอกนะ
แน่นอนไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี อันที่จริงแม็กซ์แถมให้อีกสามปีเลยว่าไม่เหมาะกับเด็กอายุ 21 ปีด้วย เด็กใสไร้เดียงสาไม่ควรอ่านอะไรอย่างหนังสือเล่มนี้หรอก
ไม่เหมาะกับแฟนหนังสือที่ชอบนางเอกเป็นสาวน้อยวัยใส ไร้ราคี เพราะนางเอกของเราเป็นแวมไพร์อายุพันปี และเซ็กส์เป็นเรื่องปกติมากในสังคมแวมไพร์
ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน หรือชอบเรื่องราวความรักที่เป็นรูปแบบที่คุ้นเคยในหนังสือโรแมนซ์เล่มอื่น เพราะเล่มนี้นำเสนอความรักที่แตกต่าง เมื่อนางเอกบอกกับพระเอกว่า "อย่าคิดว่าการที่เธอบอกรักเขา จะทำให้เธอโหดร้ายกับเขาน้อยลง"
และไม่เหมาะกับคนที่ชอบหนังสือแนวพระเอกโหดที่ทำร้ายจิตใจนางเอกจน ร้องไห้ตาบวมแล้วสุดท้ายก็มาสารภาพรักในหน้าสุดท้าย เพราะเรื่องนี้เป็นนางเอกต่างหากที่เป็นฝ่ายกระทำ แต่พระเอกของแม็กซ์ไม่ร้องไห้หรอกนะ แค่แขนหัก
โอเคจบคำเตือน เราก็มาว่ากันถึงหนังสือเล่มที่แม็กซ์รอคอยอยากอ่านมาหลายเดือนเล่มนี้กันได้สักที
"คนรับใช้ของราชินีแวมไพร์" ก็เป็นหนังสืออย่างที่ชื่อเรื่องบอกใบ้ ชื่อเรื่องที่ส่งสัญญาณว่าเล่มนี้ต้องเป็นแนว BDSM ที่พระเอกตกเป็นเบี้ยล่าง ก็เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เสนอตัวเข้ามาเป็นคนรับใช้แก่นางเอกซึ่งเป็นแวมไพ ร์ แถมไม่ใช่แวมไพร์ทั่วไปอีกด้วย เธอดำรงตำแหน่งราชินีแห่งแวมไพร์ ฐานันดรของเธออาจจะไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเธอเป็นหัวหน้าใหญ่ของเหล่า แวมไพร์ เพราะเธอถูกเปรียบเทียบว่าเป็นราวกับราชวงค์ของประเทศอังกฤษกับรัฐสภา ซึ่งในเรื่องนี้ก็คือสภาแวมไพร์ แต่เพราะอายุที่เยอะ พลังอำนาจอันเปี่ยมล้น เธอจึงเป็นแวมไพร์ที่ทุกคนต้องให้ความนับถือ
จาค็อบ กรีนเจอกับเลดี้เอลิซ่าเมื่อสองปีก่อน ตอนที่เขาติดตามพี่ชายซึ่งเป็นนักล่าแวมไพร์ไปล่าแวมไพร์นอกคอกท แม้กระทั่งพี่ชายของเขาก็ยังเตือนให้จาค็อบอยู่ห่างจากหญิงสาวคนนี้ แต่เขาไม่เคยลืมเธอไปได้ จนกระทั่งหนึ่งปีต่อมาเขาก็ติดต่อกับโธมัส อดีตคนรับใช้ของเธอซึ่งบัดนี้ถูกเนรเทศออกไปอยู่ที่มาดริก และเขาก็ถูกชัดจูงเข้าไปสู่โลกที่แตกต่าง เพื่อฝึกเป็นคนรับใช้ของแวมไพร์
อะไรคือคนรับใช้ของแวมไพร์
ฐานะของคนรับใช้ของแวมไพร์ก็ไม่ต่างอะไรจากทาส พวกเขามีหน้าที่คุ้มครองแวมไพร์ที่รับใช้ในยามกลางวันคอยดูแลเรื่องส่วนตัว ทุกเรื่อง ตั้งแต่จัดการงานในบ้าน จัดงานเลี้ยง หรือกระทั่งติดต่อธุรกิจให้ แต่หน้าที่หลักและสำคัญที่สุดก็คือ พวกเขาเป็นแหล่งอาหารหลักให้แก่แวมไพร์ แค่เพียงเลือดของพวกเขาก็เพียงพอแล้วที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตของแวมไพร์ได้
นั่นยังไม่ใช่หน้าที่ทั้งหมดของพวกเขา
แหมก็คงนึกออกกันน่ะว่าหน้าที่ "สำคัญ" อีกอย่างคืออะไร ก็เรื่องนี้มันแนวอีโรติกโรแมนซ์นี่นา ถ้าไม่รับใช้ในเรื่องนั้น มันก็คงไม่อีโรติกแล้วนะ
แวมไพร์จะทำเครื่องหมายบนร่างของคนรับใช้ของตนเพื่อเป็นการแสดงความยอม รับ รอยแรกทำให้แวมไพร์สามารถติดตามและรู้แหล่งที่อยู่ของคนรับใช้ของตนได้ รอยที่สองทำให้อ่านใจพวกเขาได้ และรอยสุดท้ายจะเป็นการผูกชีวิตของคนรับใช้ไว้กับเจ้านาย จะทำให้คนรับใช้ซึ่งเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดามีอายุยืนยาวอีกสองหรือสามเท่าของ คนปกติ ข้อเสียก็ย่อมมีแน่นอน เพราะหากแวมไพร์ตายก่อน คนรับใช้ก็จะต้องตายตามไปด้วย
โธมัสคนรับใช้คนก่อนของเลดี้เอลิซ่าด้วยอดีตที่เป็นพระ ทำให้เขาได้รับยกเว้นไม่ต้องรับใช้เธอในเรื่องเพศ แต่จาค็อบไม่โชคร้ายขนาดนั้น แรงดึงดูดทางกายเป็นสิ่งแรกที่แวมไพร์สาวสองพันปีสังเกตเห็น แม้ในยามที่เธอไม่ต้องการคนรับใช้คนใหม่ แต่ก็พบว่าตัวเองไม่อาจปฏิเสธเขาได้ แม้จะรู้ว่าการรับเขาเข้ามาในชีวิตก็อาจเหมือนการตัดสินประหารชีวิตของเขา ด้วยตัวเธอเอง แต่ความโดดเดี่ยว และไม่เหมือนใครของจาค็อบก็ทำให้เธอต้องยอมให้เขาเข้ามาในชีวิต
ช่วงต้นของเรื่องเซ็กส์เยอะมาก จนแม็กซ์ยังเหนื่อยแทน แต่เป็นการเหนื่อยอย่างสร้างสรรนะ ไม่ใช่ซ้ำซากใช้ท่าเดิมตลอด จนถึงช่วงกลางเรื่องเมื่อจาค็อบและเอลิซ่าเริ่มผูกพันกันจนไกลเกินความ สัมพันธ์ทางกายก็ทำให้เรื่องครบถ้วนมากขึ้น ทำให้หนังสือเล่มนี้ลึกมากขึ้น และเป็นอะไรมากกว่าแค่เซ็กส์บนกระดาษ
โลกที่เอลิซ่าอาศัยอยู่ไม่ใช่โลกที่อ่อนโยน การแสดงความเปราะบางเพียงนิดเดียวอาจหมายถึงความตาย และเลวร้ายกว่านั้น ผู้หญิงที่อยู่ในฐานะเช่นเธอ และความจริงที่เธอรอดตายมาจนอายุพันปีได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเธอเองก็มีด้าน มืด เธอต้องโหดร้ายเพื่ออยู่รอด จนนี้เองทำให้เธอไม่ต่างอะไรจะเมอริดิธ เจนทรี้ (คงไม่ต้องบอกนะว่าคนที่ชอบชุดเมอรี่ เจนทรี้น่าจะชอบเรื่องนี้นะ) และในฐานะคนรับใช้ของเธอ จาค็อบต้องแข็งแกร่งพอที่จะรับด้านนี้ของเธอได้
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่เรื่องหนุ่มพบสาว สาวรักหนุ่ม แล้วพวกเราก็อยู่กันอย่างมีความสุขไปจนชั่วชีวิต เพราะแม้กระทั่งหน้าสุดท้าย เอลิซ่ายังบอกว่า ความรักไม่เพียงพอ และถ้าต้องเลือกจาค็อบต้องเลือกความอยู่รอดของคนในปกครองของเอลิซ่า มากกว่าที่จะเลือกตัวเอลิซ่าเอง
หนังสือเล่มนี้ไม่จบในตัวของมันเองหรอกค่ะ เพราะนี่เป็นเพียงการบรรยายถึงการเดินทางของจาค็อบเพื่อเข้าสู่โลกของแวมไพ ร์ การเดินทางของเขายังไม่จบสิ้น ในเล่มนี้เขาทำให้เอลิซ่ายอมรับเขาเป็นคนรับใช้ของเธอได้ ด่านพิสูจน์คุณค่าของเขายังรออยู่ในเล่มสองที่จะออกเดือนกุมภาพันธ์ 2008 เมื่อเอลิซ่าต้องเดินทางไปสภาแวมไพร์เพื่อปกป้องคนที่เธอให้ความคุ้มครอง เพื่อแก้แค้นคนที่ทำร้ายเธอในอดีต และเพื่อเผชิญกับความจริงที่ว่า เธอกำลังจะตาย
และคงต้องขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้ไม่สมบูรณ์แบบหรอกนะ มีหลายประเด็นที่แม็กซ์คิดว่าคนแต่งยังไม่เคลียร์ หรือไม่มีเหตุผลเพียงพอ แม็กซ์อ่านไปแล้วเข้าใจนะว่าจาค็อบรับเอลิซ่ามาก แต่ก็ไม่รู้ว่า ทำไมเขาจึงรักเธอ แม็กซ์ไม่ชอบคำอธิบายชนิดว่าเขาเห็นหน้าเธอครั้งแรกก็รักแล้ว มันลิเกไปหน่อยนะ ยังดีนะที่ไม่ใช่เป็นแนวเขาเห็นเธอ เขาต้องการเธอ เขาก็เลยเอาเธอมาเป็นเมียเก็บ อันนี้มันมีทวิสต์นิดนึงตรงที่ เขาเห็นเธอ เขาต้องการเธอ เขาก็เลยฝึกตัวเองเพื่อเป็นคนรับใช้ของเธอ (อย่างนี้มันค่อยรสนิยมแม็กซ์หน่อย)
โลกของแวมไพร์ในเรื่องไม่ชัดเจนเพียงพอ แต่นั่นอาจเป็นข้อบกพร่องที่แก้ไขในเล่มสอง เพราะในเล่มนี้เป็นการเล่าถึงจาค็อบและการที่เขายอมรับสภานะของตัวเองในฐานะ คนรับใช้ให้ได้
สุดท้ายก็คงเป็นฉากแอ็คชั่นที่ไม่ค่อยมีเลย อันนี้ต่างจากชุดเมอรี่ ที่ทั้งเซ็กส์และเลือดมีเท่าเทียมกัน แต่เรื่องนี้เน้นไปที่เซ็กส์อย่างเดียว
ไม่บอกชื่อคนเขียนด้วยความตั้งใจค่ะ (แต่แฟนบลอกของแม็กซ์ก็พอรู้ว่าเป็นของใครแต่งนะคะ เพราะแม็กซ์เพ้อถึงเล่มนี้มาหลายรอบแล้ว) ไม่อยากชี้โพรงให้กระรอก เพราะแม้อาจจะไม่เข้ารสนิยมเขา แต่เห็นแม็กซ์เขียนคำว่า "เซ็กส์" หลายรอบอย่างนี้ มันก็ทำให้ตื่นเต้นได้
คะแนนอยู่ที่ 87
No comments:
Post a Comment