คำถามที่ตอบยากสำหรับแฟนหนังสือก็คงเป็นการให้คำอธิบายว่า ทำไมคุณถึงชอบหนังสือเล่มหนึ่งมากเหลือเกิน และเชื่อไหมว่า ในบางครั้งคำอธิบายนั้นก็อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนอีกคนเกลียดหนังสือ เล่มเดียวกันอีกด้วย
เพราะคนเรามีประสบการณ์ที่ต่างกัน ความรับรู้ และสายตาที่มองโลกที่ต่างกัน เหมือนอย่างดีเอ็นเอ ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เหมือนกัน หรือกระทั่งแฝดเหมือนที่ดีเอ็นเอเหมือนกัน บุคลิกภาพก็ยังต่างกัน ดังนั้นการที่จะหาคนที่ชอบหนังสือเล่มเดียวกันด้วยเหตุผลที่เหมือนกัน ทุกอย่างจึงเป็นเรื่องยากมาก
บลอกวันนี้จึงเป็นเพียงการบอกถึงเหตุผลที่ แม็กซ์ ชอบหนังสือเท่านั้น อาจจะเหมือน หรือแตกต่างกะคนอื่นก็ถือว่าเตือนกันแล้วนะคะ (ซึ่งโอกาสแตกต่างจะมีมาก เพราะแม็กซ์ไม่ค่อยชอบอะไรเหมือนใครอยู่แล้วด้วย)
สำหรับ The Rule of Seduction ของแมดเดลีน ฮันเตอร์ และ Shattered Rainbows ของแมรี่ โจ พุทเนย์ เกียรติยศของ พระเอกเป็นเสน่ห์ที่สำคัญที่สุด เป็นแรงขับเคลื่อนนิยายพล็อตเรื่องธรรมดาให้ดำเนินไป เป็นสิ่งที่ทำให้คนอ่านเชื่อว่า อย่างน้อยในโลกของนิยาย ผู้ชายดี ๆ ก็ยังมีอยู่
ในเรื่อง Shattered Rainbows ไมเคิลผู้ซึ่งเคยทำสิ่งที่ไร้เกียรติที่สุดด้วยการเป็นชู้กับเมียเพื่อน ต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายอีกครั้ง เมื่อเขาพบว่าตัวเองตกหลุมรักผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้วอีกคน ความรักที่ไม่มีวันเป็นไปได้ ยกเว้นในหน้าโรแมนซ์ที่สามีของนางเอกตายอย่างได้จังหวะให้พระเอกเข้าเสียบ ได้ทันเวลา หนังสือที่อ่านแล้วบีบคั้นหัวใจโดยที่พระเอกไม่ต้องตบนางเอกสักฉาด
ส่วนใน The Rule of Seduction พื้นฐานของเรื่องทั้งหมดก็อยู่ที่เกียรติของเฮย์เดนผู้ที่เมื่อให้คำมั่นไว้ แล้ว ก็ไม่อาจคืนคำได้ ไม่ว่าจะทำให้ชีวิตของเขาและหญิงที่เขารักยุ่งยากแค่ไหน นักอ่านหลายคนอาจจะรำคาญกับพฤติกรรมของพระเอก แต่กับแม็กซ์แล้วนี่เป็นความโรแมนติกที่สุด เมื่อพระเอกต้องเอาชนะใจนางเอกด้วยการกระทำ ท่ามกลางความเข้าใจผิดของนางเอก ทำให้เธอตกหลุมรักเขา ทั้งที่คิดว่าเขาเป็นเลวร้ายที่สุด ไม่มีการแก้ตัว หรือสร้างภาพว่าเป็นคนดี อเล็กเซียรักเฮย์เดนจนมากพอที่จะมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ แม็กซ์ชอบที่คนแต่งให้คำจำกัดความของเรื่องนี้ไว้ At the core of the plot is the concept of honor. From the second chapter honor causes the hero to do certain things and forbids him to do others. Debts of honor from the past also influence his actions and affect his emotions (ดีใจมากเลยที่แม็กซ์อ่านเรื่องนี้แล้วตีความได้ในทางเดียวกับคนแต่ง)
ความเชื่อใจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หนังสือโรแมนซ์เวิร์คสำหรับแม็กซ์ ในด้านที่ตรงข้ามชนิดที่เรื่อง Perfect ไม่มีวันเป็นได้ แมรี่ เชื่อว่าวูลฟ์เป็นผู้บริสุทธิ์จากอาชญกรรมที่เขาถูกตัดสิน นั่นเป็นหัวใจหลักที่ทำให้เรื่อง MacKenzies Mountain ของลินดา โฮเวิร์ดกลายเป็นหนังสือในดวงใจของแม็กซ์ เช่นเดียวกับที่เรื่อง The Golden Chance ของเจนย์ แอนด์ เครซเป็น
แล้วความรักที่พระเอกมีต่อนางเอกล่ะ แม็กซ์อาจไม่ใช่พวกความรักนิยมนะคะ แม็กซ์ไม่เชื่อว่า การบอกว่ารักจะเป็นทางออกให้กับการกระทำชั่ว ๆ ของพระเอกหลายคน ที่เลวกะนางเอกตั้งแต่หน้าแรก แล้วมาบอกว่า ฉันรักเธอ แล้วก็ได้รับการให้อภัยทุกอย่าง นั่นไม่ใช่ความรักสำหรับแม็กซ์ ความรักของแม็กซ์ต้องเป็นอย่างเรื่อง Pearl Cove ขอ งอลิซาเบ็ธ โลเวลล์ เมื่อผู้ชายที่แอบรักคุณมานานกว่าเกือบสิบปี ลงทุนทิ้งทุกอย่าง เสี่ยงชีวิต บินข้ามโลกมาหาคุณ ผู้ชายที่รักคุณจนสุดหัวใจจนตายแทนคุณได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องพูดอะไรสักคำ แต่ความรักสำหรับแม็กซ์ต้องไม่ใช่อาการหน้ามืด (ประเภทหาทางเคลมนางเอกลูกเดียว) หรือตาบอด (ชนิดที่นางเอกร้ายขนาดไหน กูก็จะทน)
อีกปัจจัยนึงที่มีผลมากต่อความชอบของแม็กซ์ และเราก็กล้าจะยอมรับ นั่นก็คือปฏิกริยาทางเคมีระหว่าง พระเอกกะนางเอก แม็กซืไม่ได้หมายความถึงเซ็กส์นะ แม้ว่านั่นจะเป็นส่วนหนึ่งที่แม็กซ์พูดถึง แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด เซ็กส์ที่เจอหน้ากันแล้วก็ แบม แบม เนี่ย หาอ่านที่ไหนก็ได้ แต่ความรู้สึกเชื่อมต่อระหว่างพระเอกและนางเอก ปฏิสัมพันธ์ที่คนอ่านรู้สึกถึงได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ทั้งคู่พบกัน นั่นเป็นเสน่ห์ที่แม็กซ์ไม่อาจต้านทานได้เลย A Kiss in the dark ของเมอริล ซอว์เยอร์ ที่แม้พระนางจะเป็นศัตรูกัน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกทางกายที่ปิ๊งปั๊งกันได้ หนังสือเล่มนี้ยังมีอะไรที่มากกว่านี้นะ แต่เหตุผลแรกที่แม็กซ์ติดใจหนังสือเล่มนี้ก็เพราะปฏิกริยาทางเคมีอันนี้นี่ แหละ แล้วยังเรื่อง On thin ice ของซูซาน แอนเดอร์เซ่นอีกล่ะ ฉากที่พระเอกเข้าไปค้นตู้เสื้อผ้าของนางเอกแล้วเจอของใช้ส่วนตัวของเธอ หลายคนอาจบอกว่าหื่นไปหน่อยนะ แต่กับแม็กซ์มันเป็นเสน่ห์ของที่ไม่อาจปฏิเสธได้ อ่านแล้วรู้สึกถึงความเซ็กซี่ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเชียวล่ะ (น่าเสียดายที่เดี๋ยวนี้ซูซาน แอนฯไม่เขียนเรื่องอย่างนี้อีกแล้ว)
อารมณ์ขันก็เป็นส่วนประกอบสำคัญในเรื่อง ปกติแม็กซ์ไม่ชอบเรื่องแนวโรแมนติก คอมเมดี้เท่าไหรหรอกนะคะ ส่วนใหญ่จะชอบความโหดค่ะ แต่งานโรคอมฯดีดี ที่อ่านแล้วฮาแตกก็เป็นสิ่งที่แม็กซ์มองหาเสมอ ซานดร้า ฮิลล์กับเรื่อง Desperado ของเธอเป็นชื่อแรกที่คิดออก ยังเรื่อง The Gift ของจูเลีย การ์วู้ด กับพระเอกโจรสลัดที่เมาเรือ แค่คิดก็ฮาแล้วนะ นี่ยังไม่นับความน่ารักมาก ๆ ของนางเอกอีก
กีฬา ยังมีอีกด้านของแม็กซ์ที่คุณอาจจะไม่รู้ แม็กซ์เล่นเบสบอลจนติดทีมของมหาวิทยาลัย (ได้เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬามหาลัยประจำรัฐด้วยนะ) มีเพื่อนเป็นนักกีฬาก็หลายคน ดังนั้นเมื่อเจอโรแมนซ์นักกีฬาก็เป็นอันทนไม่ได้ต้องซื้อมาอ่านทุกที แต่ก็ผิดหวังประจำนะ เพราะเขียนไม่ค่อยดีเท่าไหร บางเรื่องอาจจะสนุก แต่กีฬาก็เป็นเพียงองค์ประกอบเล็กมากในเรื่อง เป็นภูมิหลังของพระเอก เหมือนอย่างที่ซูซาน อลิซาเบ็ธ ฟิลลิปส์ใช้ในหลายเรื่องของเธอ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรเลยนะ เพียงแต่การเขียนเรื่องให้กีฬาและโรแมนซ์ไปด้วยกันแบบเดินจูงแขนจึงเป็นความ ใฝ่ฝันของแม็กซ์ และ It had to be you ของ เจ๊ซูซาน ฟิลฯ ก็เป็นคำตอบ หนังสือที่ผสมผสานกีฬาและโรแมนซ์ได้ดีที่สุด จนบัดนี้แม็กซ์ก็ยังไม่เคยอ่านเรื่องไหนที่ลงตัวได้เท่านี้
ความคิดสร้างสรรอาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม็กซ์เป็นคนเบื่อง่าย ดังนั้นหนังสือที่เหมือนกันทุกอย่างแม็กซ์อาจจะชอบเล่มนึง แต่เกลียดอีกเล่มนึงได้โดยง่าย แม็กซ์ตะลึงกับความคิดสร้างสรรของดาร์คฮันเตอร์ แต่ตอนนี้ก็เบื่อไปแล้ว แม็กซ์กำลังหลงไปกับโลกที่เจอาร์.วาร์ดสร้างขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นแหละที่แม็กซ์จะตีจากไปหานักเขียนคนอื่น
สุดท้ายไม่เอ่ยก็คงไม่ได้ เหตุผลที่ทำให้แม็กซ์รักหนังสือ เป็นชื่อตัวละครสองตัว ที่ดีที่สุดในโลกแห่งนิยาย กระทั่งในความฝันที่บรรเจิดที่สุดของแม็กซ์ (มาจากคำว่า In my wildest dreams) ก็ยังไม่คิดว่าจะมีนักเขียนที่สามารถสร้างตัวละครที่สมบูรณ์แบบด้วยความไม่ สมบูรณ์แบบของพวกเขาได้อย่างที่เจ.ดี. ร็อบบ์ทำกับ อีฟ และโร้ค
No comments:
Post a Comment