แม็กซ์อ่านหนังสือของลาร่า เอเดียน หรือเหล้าเก่าที่ชื่อทีน่า เซ็นต์จอห์นที่ตอนนี้กลายร่างจากนักเขียนแนวประวัติศาสตร์มาเป็นแนวพารานอมอ ลมาแล้วสองเล่ม
บอกตามตรงค่ะว่า ไม่เห็นจะรู้สึกว่าพิเศษ หรือน่าสนใจอะไร เป็นแค่ของก็อปปี้ฝีมือระดับแค่ซูโจว ไม่ใช่ของขึ้นห้างขายในปักกิ่ง เรื่องของเธอออกแนวมืด จึงมักถูกนำไปเทียบกับงานของเจอาร์ วาร์ด แต่ก็เป็นแค่นักวิ่งระดับกีฬ่าซีเกมส์ ที่ยังไม่ผ่านการตัดตัวเข้าโอลิมปิค
แต่แล้วแม็กซ์ก็ได้คำเล่าลือ และการยืนยันจากเพื่อนสนิทของแม็กซ์คนนึงว่า ไม่ควรพลาดเล่มสามในชุดเล่มนี้นะ เพราะตามความเห็นเขาแล้ว ดีกว่างานเล่มล่าสุดของเจอาร์ วาร์ดเสียอีก
ดังนั้นเมื่อได้หนังสือมา แม็กซ์ก็รีบเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว และกลับมาพร้อมรีวิวอันนี้
ซอว์รี่ มายเฟรนด์ แม็กซ์คงต้องบอกว่าการเทียบระดับกับเจอาร์ วาร์ดนั้น สำหรับแม็กซ์แล้ว มันยังไกลเกินไปสักหน่อย อาจเป็นเพราะว่าแม็กซ์ไม่ได้มีปัญหากับเรื่อง Lover Unbound อย่างที่เพื่อนรู้สึก ก็เลยทำให้ความรู้สึกติดลบที่มีต่อเจอาร์มีไม่มากเท่าเพื่อน เวลามาอ่านเล่มนี้ ก็เลยยังคิดว่าเจอาร์ยังดีกว่าอยู่
แต่แม็กซ์เห็นด้วยอย่างยิ่งว่า ลาร่า เอเดรียนมีอนาคต อย่างน้อยก็น่าสนใจพอจะทำให้แม็กซ์ตัดสินใจซื้อเล่มต่อไปในชุดของเธออ่านล่ะ (เพราะแม็กซ์มีกฎหนังสือสามเล่ม ถ้ามันห่วยสามเล่ม ก็เป็นอันจบกัน ดังนั้น MA จึงเป็นตัวตัดสินอนาคต ที่แม็กซ์บอกว่าสอบผ่าน)
เพื่อทบทวนสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักเหล่ามิดไนท์ บรีด แม็กซ์ขอวางพื้นฐานสั้น ๆ แล้วกัน เผ่าพันธุ์แวมไพร์ในโลกของชุดนี้เป็นมนุษย์ต่างดาวที่ยานอวกาศลงมายังโลก ตั้งแต่ในสมัยที่ความเจริญของอารยธรรมของมนุษย์ยังไม่มี เหล่ามนุษย์ต่างดาวพวกนี้โหดเหี้ยม เลวร้าย พวกเขากระหายเลือดเป็นอาหาร สาวชาวโลกที่มีรอยปานเป็นรูปหยดน้ำจะเป็นกลุ่มคนที่มีดีเอ็นเอเข้ากับพวก ต่างดาวและให้กำเนิดเหล่าลูกครึ่ง (พวกแวมไพร์มีแต่ผู้ชาย) ได้ ลูกของต่างดาวจะถูกเรียกว่า เจนวัน (หรือ Generation One) ที่มีความเป็นมนุษย์จากแม่ แม้จะยังเต็มไปด้วยความกระหายเลือดจากบิดา
เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าเจนวันทำสงครามกับผู้เป็นพ่อของพวกเขาเพื่อปกป้องมนุษย์ ให้กำเนิดองค์กรที่เรียกว่าออเดอร์ขึ้น โดยมีลูแคนเป็นผู้นำ (ลูแคนเป็นพระเอกเล่มแรก ที่ไม่หนุกเอาเลย) เวลาผ่านไป เหล่าต่างดาวตายลงจนหมด ภารกิจของเหล่าออเดอร์จึงเปลี่ยนไปเป็นการกำจัดแวมไพร์นอกเหล่า ที่พ่ายแพ้แก่ความกระหายเลือดและออกฆ่ามนุษย์ (นึกถึงพวกแวมไพร์ในชุดคาร์พาเธียนของฟีแฮน)
ในสังคมแวมไพร์ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เหล่าออเดอร์กลายเป็นของโบราณที่ไม่ควรมีอยู่ และนั่นก็เป็นความคิดของเอลิส แม่ม่ายของแวมไพร์ในสังคมชั้นสูง แต่เธอก็เปลี่ยนความคิดทั้งหมดไป เมื่อลูกชายคนเดียวของเธอเป็นเหยื่อรายล่าสุดในสงครามที่ออเดอร์มีกับแวมไพ ร์นอกเหล่า
เอลิสสูญเสียทุกอย่าง เธอได้ความเป็นอมตะจากการดื่มเลือดของสามี (เหล่าเมียแวมไพร์เริ่มต้นด้วยการเป็นมนุษย์ และจะไม่กลายเป็นแวมไพร์ เพียงแต่จะได้รับความเป็นอมตะจากการดื่มเลือดจากคู่ของตน) เมื่อเขาตาย เธอก็ตัดสินใจที่จะตายตาม การหยุดดื่มเลือดทำให้ร่างกายเธอค่อยปรับสภาพกลับมาเป็นมนุษย์ธรรมดาอีก ครั้ง
หลังจากสามีตายไปห้าปี ความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ที่สุดก็เกิดขึ้น เมื่อแคมเดนลูกชายของเธอตายลง จากนั้นชีวิตของเอลิสก็อยู่เพื่อแก้แค้น เธอออกตามล่าแวมไพร์นอกเหล่าด้วยตัวเอง และนั่นก็นำเธอไปสู่เส้นทางของทาเก้น แวมไพร์แห่งออเดอร์ที่เป็นเจนวัน
ทาเก้นเองก็สูญเสียมาไม่แพ้เอลิส ภรรยาของเขาก็เหยื่อของแวมไพร์นอกเหล่าเช่นกัน เขาเย็นชา แข็งกระด้าง ทำทุกอย่างเพื่อกำจัดศัตรู จนกระทั่งเอลิส
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของนกปีกหักสองตัวที่ได้รับโอกาสที่สองในชีวิตอีก ครั้ง คนที่ชอบนางเอกใสไร้อดีตคงไม่ชอบเล่มนี้ แม็กซ์ก็ไม่คิดว่าจะชอบเช่นกัน จนกระทั่งได้อ่าน แม็กซ์ชอบที่ทั้งทาเก้นและเอลิสเอาชนะความเจ็บปวดและกลับมาสู่เส้นความมี ชีวิตอีกครั้ง
โดยรวมเล่มนี้ทำให้แม็กซ์เชื่อว่ายังมีอนาคตสำหรับหนังสือชุดนี้ค่ะ คะแนนที่ 70 (เทียบกับเล่มแรก Kiss of midnight ที่ได้ 40 และ Kiss of crimson ที่ได้ 43)
No comments:
Post a Comment