Witch Fire // Anya Bast

สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนหนังสือแวดวงอีบุ๊ค หรืออ่านแนวอีโรติกโรแมนซ์ แม็กซ์ก็คงต้องเกริ่นนำก่อนว่าเจ๊อันย่าคนนี้เป็นใคร เธอเป็นนักเขียนของสำนักพิมพ์อีลอร่าส เคฟ ที่ออกแนวเซ็กส์ฮ็อตร้อนแรงนั่นแหละ เธอเป็นหนึ่งในนักเขียนของอีลอร่าที่แม็กซ์ยกว่าอยู่ในอันดับต้น ถือว่างานส่วนใหญ่ของเธอมีคุณภาพในระดับอ่านได้ ไม่เสียดายเวลา และสามารถหาจุดสมดุลระหว่างเซ็กส์และพล็อตได้ดี

หลังจากนักเขียนที่ฝีมือห่วยกว่าเธอได้รับสัญญาออกหนังสือเป็นพรินต์บุ๊คกัน หลายคน ในที่สุดก็ถึงคราวของอันย่า แบสบ้าง แม้ว่าจังหวะจะดูไม่เหมาะนัก

เริ่มจากหนังสือของเธอที่ถูกวางตอนแรกให้ออกขายในเดือนสิงหาคม 2007 ถูกเลื่อนมาเป็นมวยแทนนักเขียนนิสัยน่าเบื่อหน่ายอย่างลิซ่า วัลเดซที่โดนโรคเลื่อนเล่นงานอีก (ข่าวว่าหล่อนดังเกิดเหตุ ก็เลยเกิดอาการเกร็งเขียนหนังสือไม่ออก เรื่อง Patience ก็เลยเขียนไม่เสร็จสักที) ทำให้หนังสือเรื่อง Witch Fire ของอันย่าโดนแจ๊คพ็อตออกเร็วขึ้น ชนิดคนซื้อยังไม่ได้ตั้งตัวเลย เพราะไม่นึกว่าหนังสือจะออกเร็วเกินกำหนดอย่างนี้

ซึ่งคงเป็นข้อเสียนะ เพราะไม่เห็นคนพูดถึงเรื่องนี้เท่าไหรเลย ทั้งที่ก็ไม่น่าเกลียดนะ ถือว่าสนุกใช้ได้ทีเดียว

เช่นเดียวกับงานในรูปแบบอีบุ๊คของเธอ Witch Fire ไม่ถึงกับสนุกมากจนขนาดต้องเอาไปเพ้อให้เพื่อนฟัง แต่ก็อ่านได้สนุกดี

ก่อนจะเล่าเรื่องย่อคงต้องอธิบายโลกของนิยายในเรื่องก่อนนะ เพราะนี่ก็เป็นหนังสืออีกเล่มที่เป็นแนวพารานอมอลซึ่งฮิตกันเหลือเกินช่วง นี้

Witch Fire ก็เหมือนชื่อเรื่องเป็นเรื่องในโลกแห่งเวทมนตร์ที่มีพ่อมดแม่มดอยู่จริง ในโลกของหนังสือเล่มนี้ผู้มีพลังวิเศษจะถูกแบ่งออกเป็นสี่ธาตุคือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ฝ่ายธรรมะถูกเรียกว่า Witch ส่วนอธรรมก็คือ Warlock ซึ่งถ้าแปลตามคนไทยคุ้นกันก็คงจะงงดีนะ เพราะทั้งสองคำนี้ใช้ในการแบ่งเพศของพ่อมดแม่มดมากกว่า แต่ในเรื่องไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง อยู่ที่ฝ่ายที่คุณสังกัด ถ้าเป็นฝ่ายตัวดีก็เป็นวิช ถ้าเป็นตัวเลวก็เป็นวอร์ล็อค

และก็เหมือนทุกเรื่องที่แม็กซ์ชักจะตกหลุมเสน่ห์ของฝ่ายตัวเลวแล้วล่ะสิ ซึ่งนั่นจะพูดต่อไป

เรื่องย่อก็เริ่มต้นเมื่อแม่มดแห่งลมที่ไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองเป็นผู้มี พลังเหนือธรรมชาติอย่างมีอา ถูกดึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ เพราะเธอกลายเป็นเป้าหมายของพวกวอร์ล็อคที่ต้องการเอาตัวเธอไปฆ่าเพื่อ สังเวยในการปลุกปีศาจให้ตื่นขึ้น เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนพ่อและแม่ของเธอก็ถูกฆ่าเพื่อสังเวยไปแล้ว และตอนนี้ก็ถึงคิวของเธอ

และเหมือนทุกเรื่องพระเอกของเราแจ๊คก็ถูกส่งมาคุ้มครองนางเอก แต่สิ่งที่มีอาไม่รู้ก็คืออดีตอันดำมืด (อีกแล้ว)ของเขา เพราะแจ๊คเป็นคนที่อยู่ในพิธีที่คร่าชีวิตแม่ของเธอ เขาเป็นเด็กชายอายุสิบปีที่ถูกพ่อของเขาบังคับให้ร่วมพิธีชั่วร้ายนั้น หลังจากนั้นความรู้สึกผิดก็ตามติดเขาไปทุกที

แต่นั่นก็ยังไม่มากพอให้เขาเก็บไม้เก็บมือให้ห่างจากมีอา ก็นี่เป็นผลงานของนักเขียนแนวอีโรติกโรแมนซ์นี่ ถ้าไม่มีเซ็กส์คนอ่านคงผิดหวังกันแย่เลย และนี่เป็นส่วนที่ดีของเรื่อง เพราะอย่างน้อยเรื่องนี้ก็เกือบร้อยหน้าแนะกว่าพระเอกกะนางเอกจะ... กันได้ ซึ่งถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่ดีแล้วล่ะสำหรับนักเขียนในแนวเดียวกัน

แม็กซ์ชอบเรื่องนี้นะคะ นอกจากความโง่เกินเหตุไปหน่อยของนางเอกตอนท้ายเรื่องก็ถือว่าไม่มีอะไรน่า รำคาญนัก (แต่สำหรับบางคนที่ภูมิต้านทานความรำคาญต่ำ ก็ไม่แน่ล่ะค่ะ) พระเอกและนางเอกถือว่าเป็นไปตามสูตร ของหญิงสาวที่ผิดหวังในความรักมาก่อน และพระเอกที่เย็นชาต่อโลกจนกระทั่งได้พบกับนางเอก แม็กซ์ชอบแจ๊คไม่ยอมรามือง่าย ๆ เมื่อถูกมีอาตอบปฏิเสธ ชอบตอนที่เขาบอกกับเธอว่า เธอเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา และไม่มีวันที่เขาจะปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้ง่าย ๆ

ที่สำคัญที่สุด แม็กซ์ชอบตัวละครรองในเรื่อง ทั้งฝ่ายดี และแน่นอนฝ่ายเลว

โธมัส โมนาแฮน (ชอบนามสกุลนี้มาก ไม่ใครอยากให้ยืมใช้ไหมเนี่ย) เป็นญาติทางแม่ของนางเอก และเห็นหัวหน้ากลุ่มฝ่ายดี เขาเป็นพ่อมดแห่งดิน ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นพระเอกในเล่มต่อไปที่จะออกปีหน้า

และสเตฟาน นามสกุลอ่านไม่ออก ที่เป็นทายาทของฝ่ายเลว แล้วก็เลวสมใจในเรื่อง เพียงแต่หลายวูบแม็กซ์รู้สึกเหมือนเขาน่าจะมีโอกาสมาเป็นพระเอกนะ ไม่รู้ว่าเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า หรือว่ายีนชอบผู้ร้ายกลับใจเข้าสิง แต่แม็กซ์คิดว่าเขาน่าจะมีโอกาสมาเป็นพระเอกในเล่มถัดถัดไปนะ แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะก็ เขาก็น่าจะเป็นผู้ร้ายใหญ่ที่สุดในชุดเลยล่ะ

สรุปผลว่าอยู่ที่ 73 ค่ะ และคาดว่าคงจะติดตามอ่านเรื่องชุดนี้ต่อไปแน่นอน